สืบก่อนจอง “บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน”

ทำเลชะอำ-หัวหิน โดดเด่นอย่างไร…

          ต้องบอกเลยว่าชะอำ-หัวหิน เป็นหนึ่งในพื้นที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ในปี ๆ นึง จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อพักผ่อนไม่น้อย ทำให้พื้นที่ชะอำ-หัวหินกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายใกล้กรุงเทพฯ ทำให้คนจำนวนมากที่ต้องการมาพักผ่อนโซนทะเลใต้ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ยกให้ชะอำ-หัวหิน เป็นสถานที่อันดับต้นๆ ที่นึกถึง  

          ต้องบอกตรง ๆ ว่าที่ดินบริเวณหาดชะอำถือว่าน่าสนใจมาก เนื่องจากเป็นทำเลศักยภาพควบคู่มากับหัวหิน ทั้งคู่เป็นทำเลยอดนิยม ปัจจุบันที่ดินในโซนนี้ถูกพัฒนามาเป็นอสังหาฯ ไม่ว่าเป็นแนวราบหรือแนวสูง รองรับทั้งในแง่ของการท่องเที่ยว และการอยู่อาศัยระยะยาวจนถึงวัยเกษียณ รวมถึงกลุ่มผู้ซื้อสำหรับลงทุนด้วย ปัจจุบันนักลงทุนเริ่มมีการมองหาบ้านพักตากอากาศทั้งฝั่งชะอำและหัวหินมากขึ้น โดยจะเห็นว่าหลังจากที่เราเปิดประเทศมีดีเวลลอปเปอร์เปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในโซนนี้กันมาก  ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ เพราะทั้งชะอำ-หัวหิน ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เดินทางไปกลับเช้าเย็นได้สะดวกและไม่เคยลดความนิยมลงเลย

          ถ้าขับรถยนต์จากกรุงเทพฯ จะถึงชะอำก่อนครับ ซึ่งทั้ง 2 ที่ห่างกันราว 28 กม. สิ่งที่ทำให้ชะอำมีความน่าสนใจคือความสงบเหมาะแก่การพักผ่อนแบบส่วนตัว ในขณะที่หัวหินในช่วงเย็นรถค่อนข้างเยอะการจราจรจะไม่ค่อยคล่องตัวสักเท่าไหร่นัก โรงแรมและที่พักจะอยู่ติดๆ กัน ทำให้นักท่องเที่ยวเยอะขาดความเป็นส่วนตัวได้ ผมสำรวจราคาที่ดินติดหาด ชะอำนั้นมีราคาที่ถูกกว่าหัวหินเป็นอย่างมาก โดยพื้นที่ติดหาดชะอำมีราคาอยู่ประมาณ 30,000 – 60,000 บาท/ตร.ว. ในส่วนของหัวหินนั้นมีราคาอยู่ประมาณ 150,000 บาท/ตร.ว. จะเห็นว่าที่ดินชะอำนั้นมีราคาถูกกว่าโซนนี้ถ้าจะหาบ้านติดทะเล ยังสามารถหาได้และราคาเหมาะสม กลับกันถ้าเป็นโซนหัวหินพื้นที่ค่อนข้างแน่นเป็นทุนเดิม ที่ดินติดหาดเต็มไปด้วยโรงแรมและคอนโด การจะหาบ้านพักที่เป็นส่วนตัวนั้น หายากมากครับ แต่ถ้าเทียบกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีหัวหินอาจจะหลากหลายกว่าแต่ด้วยชะอำการเดินทางคล่องตัวกว่า ระยะเวลาในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ จึงแทบไม่ต่างกันครับ ฝั่งชะอำก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายไม่แพ้กัน การคมนาคมสะดวก อย่าง การสร้างมอเตอร์เวย์ นครปฐม – ชะอำ ด้วยแล้วนั้น ยิ่งทำให้ที่ดินชะอำเป็นพื้นที่น่าลงทุนและจับจองเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ได้มาในราคาที่ถูกกว่า ทำให้คุ้มค่าและสามารถสร้างมูลค่าให้แก่เราได้แน่นอนในอนาคต

          คนกรุงเทพฯ ไม่น้อยที่สนใจลงทุนกับบ้านพักตากอากาศ ซึ่งหากนึกถึงที่พักผ่อนในช่วงวันหยุด หลายคนหรือหลายครอบครัว จะต้องนึกถึงการไปพักผ่อนที่ทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งชะอำ-หัวหิน เนื่องจากเป็นจุดหมายปลายทางที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปมาได้ด้วยระยะเวลาอันสั้น ด้วยความที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของไทย จึงทำให้บริเวณโดยรอบชะอำ-หัวหินเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่สามารถตอบโจทย์ทุกการพักผ่อนของทุกคนได้ เช่น

ชายหาด

  • หาดชะอำ
  • หาดหัวหิน 

แหล่งช้อปปิ้ง หรือ ห้างสรรพสินค้า

  • โลตัส ชะอำ
  • แม็คโคร ฟู้ดเซอร์วิส ชะอำ
  • บลูพอร์ต หัวหิน
  • Hua Hin One
  • มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน

โรงพยาบาล

  • รพ.ชะอำ
  • โรงพยาบาลหัวหิน
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน

สถานศึกษา

  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศออนซี
  • โรงเรียนวังไกลกังวล

สนามบิน

  • สนามบินหัวหิน

          นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์ จากโครงการห่างออกไปประมาณ 11 กม. ยังสามารถที่จะใช้เครื่องบินโดยสารสนามบินหัวหิน ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมใช้เดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังเชียงใหม่ได้อีกด้วยครับ

“บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน” 

บ้านตากอากาศ Tuscany Style

          นอกจากทำเลที่เป็นจุดขายของโครงการแล้ว ผมยังมองว่า บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน นั้นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการพักผ่อนระดับพรีเมียมและไม่มีที่ไหนให้ได้ ด้วยพื้นที่ส่วนตัว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับโครงการ บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก แคว้น Tuscany ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางแห่งศิลปะของอิตาลี มีทัศนียภาพภูเขาสวยงาม ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องบรรยากาศและความสวยงามของโครงการ เขาได้จำลองบรรยากาศพร้อมงานสถาปัตยกรรม ดีไซน์ออกมาให้คล้ายคลึงที่สุด

          โครงการ บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน พัฒนาบนที่ดิน 52-1-77 ไร่ จำนวน 193 หลัง แบ่งเป็น 4 โซน 4 แบบบ้าน คือ New Siena, Lucca, Firenze และ Livorno แต่ปัจจุบันเปิดขาย 3 โซนด้วยกันครับ คือ

บ้านเดี่ยว New Siena พื้นที่ใช้สอย 151 ตร.ม.  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่ม 7.99 ล้าน

ทาวน์โฮม Firenze (3 Beds) พื้นที่ใช้สอย 147 ตร.ม.  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่ม 8.99 ล้าน

บ้านเดี่ยว Livorno พื้นที่ใช้สอย 266 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตกแต่งแล้วพร้อมเข้าอยู่ ราคาเริ่ม 29.99 ล้าน

โดยวันนี้ผมจะมาแนะนำ 2 แบบบ้านด้วยกัน คือ Firenze และ New Siena

ก่อนที่ผมจะแนะนำส่วนอื่น ๆ อยากจะขอสรุปจุดเด่นฟังก์ชันโครงการไว้ดังนี้ครับ

  • พื้นที่ส่วนกลางครบครันเหมาะแก่การพักผ่อน 
  • พื้นที่มีความเป็นส่วนตัว 
  • ความปลอดภัยแบบ Triple Security System 24 ชม. 
  • Facilities ครบครัน

Facilities ครบครัน

          ด้วยความที่โครงการถูกออกแบบมาให้เป็นบ้านตากอากาศระดับพรีเมียมทำให้ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการพักผ่อนและการอยู่อาศัยของทุกคน และที่สำคัญแต่ละโซนจะได้รับพื้นที่ส่วนกลางที่แตกต่างกันไป แต่ก็ถือว่าแต่ละโซนให้ได้อย่างครบครันเลยทีเดียว 

โดย Facilities ประกอบไปด้วย 

  • Clubhouse 2 ชั้น
  • ฟิตเนส 
  • สระว่ายน้ำแบบ Sky Pool 
  • Access Pool กว่า 200 เมตร 
  • ชายหาดส่วนตัว 
  • ระบบความปลอดภัยแบบ Triple Security System 24 ชม. 

          เมื่อผ่านเข้ามาจากซุ้มประตู ซ้ายมือจะเป็นคลับเฮาส์ 2 ชั้น ภายในประกอบด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ ครบครัน …

Clubhouse : หรือ Exclusive Tuscany Hill Club คลับเฮาส์ 2 ชั้น ของโครงการออกแบบสไตล์ Tuscany เพื่อให้กลมกลืนกันทั้งโครงการ โดยเลือกใช้สีโทนส้มอิฐ น้ำตาล เทา และขาว ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นอิตาลี ความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนออกมา ดึงเอาความเป็นซัมเมอร์ยุโรปออกมาให้เราได้สัมผัส โดยลูกบ้านจะสามารถเข้ามาใช้คลับเฮาส์บริเวณนี้ได้ทุกคน

          สำหรับคลับเฮาส์จะแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้น 1 จะเจอสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ที่นั่งพักผ่อน และ co-working space พอขึ้นไปชั้น 2 จะพบกับ Sky Pool ที่แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบด้าน และมีที่นั่งพักผ่อน รวมถึงฟิตเนสให้ออกกำลังกายเทควิวโครงการและภูเขาด้านหน้ากันด้วย

หาดส่วนตัว : ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ โดยหาดส่วนตัวของโครงการนั้นเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลจะมีกล้อง CCTV และรปภ. คอยดูแลสอดส่อง พื้นที่รอบข้างเป็นที่ดินเปล่าทำให้เป็นโซนที่มีความสงบ เป็นส่วนตัวสูง และปลอดภัยมาก ๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนที่แท้จริง ที่สำคัญหาดนี้ไม่มีถนนเลียบหาดด้วย และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความสกปรก เพราะทางโครงการมีการดูแลให้อยู่ในสภาพขาวสะอาดอยู่เสมอ

Access Pool : สระว่ายน้ำยาวกว่า 200 เมตร เป็นสระว่ายน้ำหลังบ้านของบ้านโซน Firenze เชื่อมต่อกับที่พักอาศัย ซึ่งโอบล้อมด้วยสวน โซนนี้จึงมีความร่มรื่น สามารถใช้งานสระว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ร้อน ทำให้คุณสามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่

ระบบรักษาความปลอดภัย

          เรียกได้ว่าไม่ต้องกังวลเลยกับระบบความปลอดภัยของที่นี่ เนื่องจาก บูเลอวาร์ด ทัสคานี ได้ใช้ระบบ Triple Security System 24 ชม. ด้วยประตูทางเข้าแบบ Double Gate แยกกันระหว่าง Clubhouse Area และ Residential Area ทำให้หมดห่วงเรื่องความอันตรายไปได้เลย

  • ควบคุมทางเข้า-ออกด้วย Access Card 
  • ติดตั้งกล้อง CCTV กระจายตามจุดสำคัญในโครงการกว่า 39 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร พร้อมเหล็กแหลม 
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชม. 
  • สัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Shock Sensor* ภายในบ้าน

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับพื้นที่ส่วนกลาง และระบบความปลอดภัย คราวนี้เราไปดูแบบบ้านกันบ้าง เริ่มจากทาวน์โฮม Type นี้กันก่อน…

แบบบ้าน FIRENZE ทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 147 ตร.ม.

          เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น และผู้ที่มองหาบ้านตากอากาศแบบกะทัดรัด แต่ครบครัน

          เริ่มต้นจากบ้านแบบแรกก่อนครับ พื้นที่ใช้สอย 147 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ บ้านเป็นแบบ Double Front บริเวณที่จอดรถกว้างสามารถจอดรถแบบ 2 คันไม่เบียดกันแน่นอนครับ  ส่วนข้างหลังบ้านเป็นสระว่ายน้ำ Access Pool

          เข้ามาที่ตัวบ้านชั้น 1 กันก่อน เป็นส่วนของ Living Area จะอยู่ร่วมกับ Dining Area บ้านจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ ให้เราได้จัดฟังก์ชัน การใช้งานได้ตามใจ  ซึ่งไอเดียแบ่งสัดส่วนของบ้านตัวอย่างเขาทำได้ดีครับ ทำให้เมื่อต้องการจัดหรือเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ก็สามารถจัดใหม่และปรับเปลี่ยนได้ง่าย

          โซนพื้นที่นั่งเล่นจัดเป็นโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งเอาไว้ พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างหากในอนาคตมีการขยับขยายครอบครัวก็สามารถเพิ่มเฟอร์นิเจอร์เข้ามาได้ไม่อึดอัด

          ถัดมาเป็นพื้นที่ครัวปิด ติดกับโซนหน้าบ้าน พื้นที่ใช้สอยภายในมีขนาดกว้างขวางและมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอสำหรับการใช้งานแบบจัดเต็ม ที่สำคัญมีหน้าต่างระบายอากาศทำให้หมดกังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นจากการทำอาหาร เข้าไปรบกวนโซนนั่งเล่น ชั้นล่างยังมี 1 ห้องน้ำที่ใกล้กับครัวและบันไดทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งภายในฟังก์ชันครบทุกการใช้งาน

          เราขึ้นมาดูที่ชั้น 2 กันต่อครับ ชั้นบนจะประกอบไปด้วย Master Bedroom 1 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว และห้องนอนรองอีก 2 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง แยกออกมาเป็นอิสระ

        สำหรับห้องนี้คือ Master Bedroom อยู่ฝั่งที่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งมีขนาดกว้างขวาง แบ่งสัดส่วนพื้นที่ภายในห้องชัดเจน ภายในห้องตกแต่งเน้นไปที่วัสดุไม้เป็นหลักทำให้ห้องมีความอบอุ่นและรู้สึกสบาย

          ภายในห้อง Master Bedroom มีมุมที่สามารถจัดเป็น Walk in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำในห้องนอน ซึ่งพื้นที่ภายในนั้นเป็นแนวยาวและกว้างขวาง ทำให้สามารถที่จะแบ่งโซนเปียกและแห้งชัดเจน พร้อมมุมวางข้าวของสำหรับแต่งตัวในห้องน้ำได้เลย

          สำหรับอีก 2 ห้องนอน จะมีพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกัน วางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ ถึงแม้พื้นที่ใช้สอยจะน้อยกว่าแต่มีหน้าต่างและระเบียงทำให้ห้องดูกว้างและโล่ง ที่สำคัญช่วยหมุนเวียนอากาศภายในห้องได้ดี ซึ่งห้องนอนสีชมพู คือ ห้องนอนที่ 2 จุดเด่นคือมีระเบียงที่ออกไปเทควิวด้านนอกได้ ซึ่งห้องนี้ยังสามารถจะเทควิวเดียวกับห้อง Master Bedroom และอีกห้องจะเทควิวหน้าบ้านได้ครับ

          ตรงกลางจะเป็นส่วนของห้องน้ำที่ทั้ง 2 ห้องต้องใช้ร่วมกันนั้น มีการแบ่งโซนเปียกและแห้งชัดเจน มีหน้าต่างช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาพร้อมช่วยหมุนเวียนอากาศ ระบายกลิ่นต่างๆ ในห้อง

แบบบ้าน New Siena บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 151 ตร.ม. 

          เหมาะกับครอบครัวที่วางแผนวัยเกษียณและครอบครัวที่ชอบความเป็นส่วนตัว และเน้นความคุ้มค่า ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนกลางก็จะถูกกว่าโซนอีกเกือบครึ่งด้วยครับ 

          แบบบ้าน New Siena เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50 ตร.วา* เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเป็นอย่างมาก จุดเด่นของบ้านหลังนี้คือ มีพื้นที่รอบบ้านที่สามารถเดินได้รอบบ้านเลยครับ โดยฟังก์ชันภายในบ้านเน้นความสบาย ใช้งานได้จริง ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มาพร้อมกับความสะดวกสบายรอบบ้าน 

          อย่างที่ได้บอกไปว่าแบบบ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการวางแผนระยะยาวสำหรับการเกษียณ ด้วยฟังก์ชันถูกออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุ อย่างแรกเลยคือ ทางลาด เข้าบ้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากเมื่อเราอายุมากขึ้น หรือถ้ามีรถเข็นเด็กก็สามารถเข้าออกสะดวกครับ

          มาดูในส่วนของหน้าบ้านกันหน่อย ตัวบ้านจะเชื่อมต่อหลังคาโรงจอดรถ ทำให้รถที่เข้ามาจะจอดอยู่ในร่ม กันแดดกันฝนได้  เสาของโรงรถเป็นช่องเก็บของอเนกประสงค์ สามารถเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่เข้าทาง ถัดจากที่จอดรถ โครงการจะปูสนามหญ้าไว้ให้ครับ โซนนี้สามารถเปิดโล่งไว้สำหรับทำกิจกรรมพร้อมครอบครัว เช่น แคมป์ปิ้ง หรือทำเป็นลานปิ้งย่างได้ครับ

          ต่อกันที่เข้ามาที่ชั้นแรก โซนแรกที่เจอคือ โซนรับแขกซึ่งจะเป็นแบบ Double Volume Living Space ชั้นนี้เน้นความโปร่งโล่งด้วยช่องแสงขนาดใหญ่เกือบทั่วบ้าน ยิ่งทำให้รู้สึกว่ากว้างขวาง และไม่อึดอัด มีการเว้นระยะทางเดินได้พอดีสะดวกกับการเข้าออก

          ถัดไปโครงการจัดให้เป็นโซน Dining Area เชื่อมต่อกับส่วนของ Living Area ทำให้ง่ายต่อการจัดแต่ง ที่สำคัญด้วยตัวบ้านที่มีหน้าต่างขนาดใหญ่รอบทิศทำให้มีแสงสว่างเข้าตัวบ้านตลอดเวลา ไม่ต้องเปิดไฟตอนกลางวันเลย

          ถัดมาเป็นส่วนของ Pantry โดยโครงการก่อเคาน์เตอร์สำหรับจัดเตรียมอาหารไว้เป็นแบบ L- Shape  ให้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสิ่งของและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้บ้านแบบนี้มีฟังก์ชันมากขึ้นด้วย

          เชื่อมต่อกันเลยในส่วนของครัวซึ่งจะเป็นครัวแบบปิด มีขนาดใหญ่พอสมควร มีประตูที่เชื่อมออกไปยังโซนซักล้าง และยังมีหน้าต่างช่วยระบายอากาศ ระบายกลิ่นด้วย

          ในส่วนของห้องนอนชั้นล่าง โครงการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต เอาไว้ พร้อมบิวท์อินตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมมุมแต่งหน้า ให้เห็นถึงพื้นที่ใช้สอยที่สามารถจะวางเฟอร์ฯ ที่จำเป็นๆ ได้ครบ นอกจากนี้ยังเจาะช่องหน้าต่างไว้ถึง 2 ด้าน ช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในห้อง ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ และสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วยครับ

          ห้องน้ำของชั้นแรกจะอยู่ใกล้กับห้องนอนชั้นล่างเลย ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน เวลาลุกเข้าห้องน้ำง่ายขึ้น ไฮไลต์ของห้องน้ำห้องนี้ คือจะมีที่นั่งสำหรับอาบน้ำ ถือว่าเหมาะมาก ๆ และสามารถใช้งานได้หลายจุดประสงค์ ที่สำคัญกระเบื้องแบบกันลื่น ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นขณะใช้งานห้องน้ำได้

          โถงบันไดจะเจาะช่องแสงขนาดใหญ่ ซึ่งเปิดได้บางส่วนด้วย ข้อดีคือเราสามารถที่จะเปิดเพื่อหมุนเวียนอากาศ ระบายความร้อนออกจากตัวบ้าน ซึ่งเมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะมีอีก 2 ห้องนอน ซึ่งเป็น Double Master Bedroom ไปดูห้องนอนแรกเลยครับ

          เริ่มที่ห้องนอนใหญ่ก่อนเลย ภายในห้องนอนฟังก์ชันครบ ทั้งส่วนของที่นอน Walk in Closet  และห้องน้ำ

          แต่ละส่วนมีพื้นที่กว้าง อย่างส่วนแรกวางเตียงขนาด 6 ฟุต พร้อมพื้นที่ว่าง 2 ด้าน สำหรับวางโต๊ะข้างเตียง ห้องนี้ยังมีระเบียงเล็กๆ ที่พอจะเดินออกไปสูดอากาศด้านนอกได้ครับ  นอกจากนี้ยังช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น

          ในส่วนของห้องน้ำภายในห้องมีขนาดกำลังพอดีและแบ่งโซนเปียกและแห้งชัดเจน

          ต่อมาจะเป็นห้องนอนรองที่มาพร้อมห้องน้ำในตัวเช่นกัน  สำหรับห้องนี้โครงการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ไว้่เป็นไอเดีย โดยยังมีพื้นที่เหลือข้างเตียงให้วางของ  

          ปลายเตียงทำเป็นที่นั่งติดริมหน้าต่าง หรือ Bay Window  ซึ่งช่องแสงบริเวณนี้จะมองเห็นมุมนั่งเล่นชั้นล่างครับ นอกจากนี้ก็ยังมีหน้าต่างอีก 2 จุด ห้องนี้จึงดูโปร่งสบาย 

          ถ้าสังเกตจะเห็นว่าห้องน้ำของที่นี่จะแบ่งโซนเปียกและแห้ง ไม่เพียงแค่กั้นฉากกั้นนะครับ แต่ยังทำเป็นสเตปเพื่อกั้นน้ำไม่ให้ไหลไปทั่ว ถ้าสังเกตจะเห็นว่าห้องน้ำทุกห้องจะมีช่องแสง ทั้งนี้เพื่อช่วยเพิ่มความสว่างและที่สำคัญกว่านั้น คือการระบายความชื้นและกลิ่นออกไปจากห้องน้ำด้วยครับ

ใครเหมาะที่จะมาซื้อที่นี่? 

          โครงการ “บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน” โครงการนี้ส่วนตัวผมมองว่าเหมาะกับคนที่กำลังมองหาพื้นที่พักผ่อน บ้านตากอากาศสำหรับครอบครัว หรือครอบครัวที่วางแผนวัยเกษียณไว้แล้วอยากจะได้บ้านติดทะเลในราคาที่จับต้องได้ ทั้งนี้ชะอำก็ถือว่าเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสุดฮิต ทำให้บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง โรงพยาบาล สถานศึกษา สนามบิน และที่สำคัญเดินทางง่าย ใกล้กรุงเทพฯ ในอนาคตเมื่อมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ และมอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน-วังมะนาว เปิดใช้งานที่ดินในโซนนี้ก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่าสูงมากขึ้นครับ 

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ 

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

  1. ทำเล : ผมมองว่าชะอำยังอยู่ในโซนที่ใกล้ความสะดวก ในขณะที่เรากำลังหาบ้านที่สงบเหมาะแก่การมาทั้งพักผ่อนและอยู่อาศัยก็ยิ่งตอบโจทย์ เพราะอย่างที่บอกว่าโซนนี้ไม่ค่อยวุ่นวาย การเดินทางคล่องตัวกว่า และบริเวณโดยรอบก็มีครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะใกล้สถานที่สำคัญ ๆ สถานที่ท่องเที่ยวด้วย ทำให้ “บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน” ตอบโจทย์ในทุกรูปแบบ ทั้งความสะดวกสบาย ความพรีเมียม และความเป็นส่วนตัว 
  2. ราคา : ใครที่มองหาบ้านติดทะเล ราคาเท่าบ้านชานเมือง 7- 9 ล้าน ฟังก์ชันไม่ได้แพ้กันเลยครับ ยิ่งถ้าขยับเข้าหัวหินราคานี้จะได้คอนโดไม่ถึง 100 ตร.ม. ด้วยซ้ำ หากมองปัจจัยอื่นร่วมด้วยก็ยิ่งเห็นชัดว่าราคาของ บูเลอวาร์ด ทัสคานี ชะอำ-หัวหิน ค่อนข้างคุ้ม ทั้งความพรีเมียม ความเป็นส่วนตัว  แล้วยิ่งที่ดินโซนริมหาดชะอำ มีแนวโน้มจะเพิ่มมูลค่าสูงขึ้นแล้ว ยิ่งถือว่าคุ้มค่ามากขึ้นไปอีก
  3. ส่วนกลางและสเปกบ้าน : พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับโครงการในลักษณะเดียวกันหลายโครงการ ถือว่าตอบโจทย์ทุกช่วงวัย ส่วนสเปกของบ้านให้มา รองรับการใช้ชีวิตจริง ทุกส่วนออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อทุกความต้องการของชีวิต
  4. รูปแบบบ้าน : มีความเป็นเอกลักษณ์ มีสไตล์ชัดเจน ดึงเอาบรรยากาศและความเป็นทัสคานี ของอิตาลีมาใช้ ทำให้ผู้อาศัยรู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนที่แท้จริง และที่สำคัญบ้านทั้งสองแบบต่างก็มีฟังก์ชันที่น่าสนใจทั้งคู่ด้วย
  5. การลงทุน : เนื่องจากย่านนี้เมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่สนใจเยอะ ยิ่งส่งผลให้อนาคตพื้นที่บริเวณนี้จะมีมูลค่าสูงขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งคือการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การเปิดประเทศ ให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยได้ จุดนี้มีโอกาสทำให้อสังหาฯ ปรับราคาขึ้น แน่นอนว่าที่อยู่อาศัยในเมืองท่องเที่ยวแบบนี้มีโอกาสสูงมากที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุน เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บ้านคอนโดจะแพงขึ้นกว่านี้อีก

——————————————————————————————

สำหรับใครที่สนใจอยากได้รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม

โทร. 032-470-977

หรือคลิก https://m.scasset.com/9QMY

พิกัดโครงการ https://goo.gl/maps/Zij7rfNX8Hr3DaSd6

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *