สืบก่อนโอน AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี

แอริ แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี
AIRI Chaengwattana 14 –
Vibhavadi

         …ถ้าพูดถึงทำเลเมืองที่เหมาะกับอยู่อาศัยจริงๆ ผมคงมองทำเล “แจ้งวัฒนะ” ไว้เป็นลิสอันดับต้นๆ ที่ผมจะมองเลยครับ และหากจะถามหาบ้านเดี่ยวแถว แจ้งวัฒนะ ผมมองว่าไม่ค่อยมีนะครับ แต่ถ้าหากรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีชมพูเริ่มเปิดใช้บริการ ผมว่าทำเลนี้น่าจะมีบ้านเดี่ยว คอนโด มาลงกันอีกหลายโครงการเลยครับ  และถ้าถามว่าแล้วตอนนี้บ้านเดี่ยวโครงการไหนที่น่าสนใจ? ผมมองว่าโครงการนึงที่น่าสนใจคือ โครงการ “AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี” ของอนันดา เพราะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีคุณภาพ พื้นที่กว้าง รวมถึงยังมีส่วนกลางที่จัดเต็ม และที่ผมลงพื้นที่ไปเอง ทำเลถือว่าเป็นทำเลเมืองที่มีศักยภาพค่อนข้างสูง และมีเส้นทางลัดในการเดินทางหลายเส้นทาง เข้า – ออก เมืองง่ายมากครับ วันนี้ผมเลยจะพาทุกคนมาดูกันว่า ทำไม? โครงการ AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี ถึงน่าสนใจครับ

         หลังจากก่อนหน้านี้ผมได้พาทุกคนไปสืบทำเล โครงการ “AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี” บ้านเดี่ยวหรู Exclusive Area สไตล์ญี่ปุ่น บนทำเลศักยภาพกันมาแล้วเชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้แล้วว่าตัวโครงการจริงๆ นั้นน่าสนใจแค่ไหน ซึ่งวันนี้เราจะไปดูกันครับว่าโครงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง…

กว่าจะเป็น “AIRI” บ้านเดี่ยวสุดหรู By อนันดา

         แต่ก่อนจะไปเยี่ยมชมโครงการ ผมอยากจะพูดถึงแบรนด์ “AIRI” ให้ทุกคนทราบที่มาที่ไปของแบรนด์นี้กันก่อนนะครับ เมื่อก่อนต้องบอกว่าทางอนันดาจะมีแบรนด์บ้านอยู่แค่ 2 แบรนด์หลักๆ นั่นก็คือ Atoll และ Arden ซึ่งจะเจาะกลุ่มบ้านเดี่ยวสไตล์รีสอร์ท ระดับราคาจะอยู่ประมาณ 1.99 – 7 ล้าน* และเจาะกลุ่ม Townhome โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Eden รวมการออกแบบทางศิลปะและสุนทรียภาพเข้าด้วยกัน ระดับราคาอยู่ที่ 7.5 – 12 ล้าน* ซึ่งเมื่อปีที่แล้วต้องบอกว่าตลาดในระดับ Premium เติบโตเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะ ทางอนันดาจึงเห็นโอกาสตรงนี้และ Life Style ของคนเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ยอมซื้อของแพงถ้าหากได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับเงินที่ได้จ่ายไป ดังนั้น ทางอนันดา จึงได้สร้างแบรนด์บ้านเดี่ยว แบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า “AIRI” ขึ้นมา ซึ่งโครงการนี้คิดมาเพื่อกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านเดี่ยวในระดับพรีเมียมจนถึงคุ้มค่า สไตล์มินิมอล ที่ผสมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นนั่นเองครับ

          และในปัจจุบันแบรนด์ “AIRI” นั้นมีด้วยกัน 3 โครงการดังนี้ครับ…

◼️ AIRI พระราม 5-ราชพฤกษ์
◼️ AIRI พระราม 2
◼️ AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี

          และหนึ่งในโครงการที่ผมมองว่า เป็นบ้านเดี่ยวที่น่าสนใจบนทำเลที่เรียกได้ว่า น่าสนใจมากมากอย่าง “AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี” ครับ เรามาดูว่าโครงการนี้และทำเลของโครงการนี้เป็นอย่างไรกันครับ

ทำเล “แจ้งวัฒนะ” ทำเลอนาคต เชื่อมต่อทุกความเจริญ

          …ทำเลของโครงการนี้ เมื่อก่อนต้องบอกว่า ผมมองว่าเป็นทำเลไกลตัวเมือง แต่ปัจจุบันเมื่อการมาของรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งสายสีแดงเข้มและสายสีชมพูมาถึง ทำให้ผมต้องลองกลับไปมองทำเลนี้ใหม่อีกครั้ง และระยะหลังมานี้ผมเริ่มเห็น Developer หลายเจ้าเริ่มมาซื้อที่ดินย่านนี้เพิ่มขึ้น และหากถามว่าย่านนี้เหมาะกับอยู่อาศัยประเภทไหน? ผมมองว่าถ้าคนที่มีครอบครัวแล้ว และบ้านเดี่ยวน่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ซึ่งทำเลแจ้งวัฒนะในปัจจุบันนี้ได้กลายเป็น CBD นนทบุรีไปแล้วเรียบร้อย เนื่องด้วยองค์ประกอบในเรื่องของแหล่งอำนวยความสะดวกที่ครบ การเดินทางที่ครอบคลุม แจ้งวัฒนะจึงถือว่ามีศักยภาพที่สุดในนนทบุรี เพราะมีองค์ประกอบ Residential Area, Education Hub และ Business District อย่างครบถ้วนนั่นเองครับ

          สำหรับตัวโครงการ AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี นั้นจะตั้งอยู่ใน ซ. แจ้งวัฒนะ 14 ซึ่งนอกจากตัวโครงการที่สามารถเดินทางเข้า – ได้หลาย ซ. แล้วทำเลของที่นี่ยังถือว่าเป็นอีกทำเลที่เดินทางสะดวกเช่นกันครับ ทั้งเข้าและออกเมืองได้หลายส้นทาง เพราะที่ตั้งของโครงการนั้นเชื่อมต่อได้ทั้ง ถ. แจ้งวัฒนะ, ถ.วิภาวดีรังสิต, ถ. พหลโยธิน, ถ.เลียบคลองประปา, ถ. ติวานนท์, ถ.รามอินทรา และ ถ. งามวงศ์วานนั่นเองครับ ซึ่งไม่ไกลกันนั้นก็ยังมีทางยกระดับอุตราภิมุข (ทางด่วนดอนเมือง – โทลเวย์) ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด) ซึ่งผมสรุปจุดเด่นของทำเลมาไว้ดังนี้ครับ

จุดเด่นทำเล

◼️ ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย (สายสีแดง สถานีหลักสี่ และสายสีชมพู สถานีเมืองทอง 1)
◼️ ใกล้ทางด่วนโทลล์เวย์ และทางพิเศษอุดรรัถยา
◼️ ใกล้สถานที่ราชการสำคัญ เช่น ศูนย์ราชการ, กระทรวงยุติธรรม, ศาลปกครอง, กรมการกงศุล, ไปรษณีย์หลักสี่ เป็นต้น
◼️ ใกล้ห้างสรรพสินค้า เช่น Central แจ้งวัฒนะ, Makro, Tesco Lotus, BigC, อเวนิว แจ้งวัฒนะ และ IT Square เป็นต้น
◼️ ใกล้ รพ. เวิลด์เมดิคอล รพ. มงกุฎวัฒนะ และ รพ. วิภาวดี

AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี” บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ญี่ปุ่นสุดหรู

          สำหรับโครงการนี้เรื่องของการออกแบบค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานมากครับ เพราะคิดมาภายใต้แนวคิด “The Art of Living The Composition of Life.” ที่ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดที่อยากให้เป็น โดยตัวบ้านนั้นจะให้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ด้วยการนำ “SHAKKEI” ปรัชญาการออกแบบของญี่ปุ่นที่สร้างมุมมองโดยการหยิบยืมพื้นที่ภายนอกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในตัวบ้าน จะเป็นการออกแบบสวนไว้ด้านข้างบ้าน เพื่อให้เวลาที่เรานั่งมองวิวจากในบ้านออกไปข้างนอกจะได้สบายสายตา ได้รับความร่มรื่นและได้การพักผ่อนจากการอยู่อาศัยอย่างแท้จริงครับ และยังให้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะภายในโครงการมี 85 ยูนิตเท่านั้นครับ

ส่วนกลางครบ แบบ Outdoor Garden

         ส่วนกลางของที่นี่ส่วนตัวแล้วผมว่าค่อนข้างใหญ่ และยังตอบโจทย์การใช้งานครบทุก Activity อีกด้วยครับ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางนั้นถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Play Hide and Seek with Elegance” มีความร่มรื่น เพราะต้นไม้ใหญ่ของโครงการนี้มีค่อนข้างเยอะ พื้นที่ส่วนกลางจะเชื่อมต่อกันตั้งแต่ Outdoor Garden ไปยัง  Clubhouse ที่นี่สระว่ายน้ำจะเป็นระบบเกลือขนาดใหญ่ และ Fitness รวมถึงห้องน้ำจะมี Locker ไว้ใส่ของด้วยครับ เรามาดูส่วนกลางของโครงการนี้ทีละส่วนกันเลยครับ

สวนสีเขียวขนาดใหญ่ : ก่อนถึง Clubhouse ของโครงการจะเห็นสวนสีเขียวที่มีขนาดใหญ่มากเลยครับ อยู่ตรงกลางของพื้นที่โครงการ และอยู่ด้านหน้า เข้ามาทางโครงการนิดเดียวก็เจอแล้วครับ

สนามเด็กเล่น : เดินเข้ามาหน่อยจะเจอสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นที่เหมาะสมและไม่เป็นอันตราย รวมถึงมีที่นั่งรอสำหรับผู้ปกครองด้วยครับ

Clubhouse : มาถึงบริเวณนี้จะเป็น Clubhouse ของโครงการ ซึ่งชั้นหนึ่งจะเป็นสระว่ายน้ำ และมีพื้นที่นั่งพัก และห้องน้ำรวมถึงมี Locker สำหรับเก็บของ ส่วนชั้น 2 จะเป็น Fitness ที่มองออกไปจะเห็นวิวสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำ : ของโครงการจะเป็นแบบระบบเกลือ

Fitness : จะมีอุปกรณ์ครบครัน พร้อมให้บริการครับ 

และนี่ก็คือส่วนกลางของโครงการนี้ครับ เรามาดูรูปแบบโครงการกันต่อเลยนะครับ

บ้านเดี่ยวแนวใหม่ จัดพื้นที่ลงตัวสไตล์คุณ

          โครงการนี้จะมีบ้านทั้งหมด 3 รูปแบบนะครับ โดยแบ่งเป็น

◼️ แบบ S : 220 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
◼️ แบบ M : 240 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
◼️ แบบ L : 285 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ

          โดยโครงการะมีบ้านตัวอย่างให้ผมได้ชม อยู่ 2 แบบ ดังนี้ครับ…

◼️ แบบบ้าน AI – CRAF (ขนาด M) 240 ตร.ม. จะเป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
◼️ แบบบ้าน AI – CON (ขนาด L) 285 ตร.ม. จะเป็น 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน

          เรามาดูที่ขนาด M กันก่อนเลยครับ…

แบบบ้าน AI – CRAF (ขนาด M) 240 ตร.ม.
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่กว้าง สวนสไตล์ “SHAKKEI”

          สำหรับพื้นที่ชั้นล่างนั้น เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Living Room ขนาดใหญ่ และยังเชื่อมต่อกับมุมครัวแบบ Open Zone โดยที่ชั้นนี้จะมีห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการแต่งมาให้เป็นห้องทำงานและพักผ่อนไปในตัวอีกด้วยครับ คราวนี้ลองไปดูกันที่ชั้น 2 กันต่อเลยครับ

         ในส่วนของชั้นที่ 2 ของตัวบ้านนั้น จะเจอกับ Family Area ที่ใช้เป็นมุมพักผ่อนสำหรับครอบครัว นอกจากนี้ยังมี Multi Purpose Area ที่สามารถปรับให้เป็นชั้นวางของ หรือจะจัดให้เป็นห้องพระก็ได้ครับ

         โดยพื้นที่ชั้น 2 นี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ห้องนอน ความสูงของฝ้าถึงเพดานทุกห้องเท่ากันครับ คือ 2.7 เมตร ซึ่งผมถือว่าบ้านเดี่ยวความสูงเท่านี้ถือว่าสูงนะครับ และมากกว่าน้้น ผมชอบความพิเศษของ Master Bedroom ครับ นอกจากพื้นที่ที่กว้างแล้ว ตัวห้องน้ำยังมี Bathtub ส่วนตัวและสุขภัณฑ์เป็นแบบ Automatic มีรีโมทคอนโทรลในการเปิด – ปิด ซึ่งอีก 2 ห้องที่เหลือนั้นจะเป็นแบบปกติครับ

แบบบ้าน AI – CON (ขนาด L) 285 ตร.ม.
บ้านพื้นที่ใหญ่ มี Bathtub ส่วนตัว

          ในส่วนของพื้นที่ชั้น 1 เดินเข้าจะเจอกับ Living Area ที่ส่วนตัวผมมองว่ากว้างทีเดียวครับ เชื่อมระหว่างห้องครัวและมุมรับประทานอาหาร

          และทางด้านซ้ายมือของตัวบ้านนั้นถือว่าส่วนพิเศษก็ได้ครับ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางด้านข้างตัวบ้านที่จัดให้เป็นที่นั่งพักผ่อนเรียกว่า “SHAKKHI” (ชากิอิ) ซึ่งเป็นแนวคิดญี่ปุ่นให้ความสงบร่มรื่นเหมือนการพักผ่อนจริงๆ นั่นเองครับ คราวนี้เราลองไปดูที่ชั้น 2 กันครับ…

          สำหรับพื้นที่ชั้น 2 โถงบันไดจะสูงประมาณ 3.9 เมตร ซึ่งสูงกว่ารูปแบบขนาด 240 ตร.ม. และพื้นที่ Family Area จะกว้างกว่าครับ เรียกได้ว่า ถ้ามาทำกิจกรรมทั้งครอบครัวสบายๆ เลยครับ รวมถึงระเบียงชมวิวหน้าบ้านก็อย่ตรงบริเวณนี้ด้วยครับ

         มาถึงในส่วนของห้อง Master Bedroom จะพิเศษกว่าห้องอื่นรับ เพราะมี Bathtub ส่วนตัวแบบ Sexy ซีทรู ซึ่งต่างจากบ้าน 240 ตร.ม. ที่เป็นแบบปกติ ส่วนสุขภัณฑ์จะเป็นแบบ Automatic ที่มีรีโมทคอนโทรลในการเปิด – ปิด ซึ่งห้องอื่นๆ จะเป็นแบบปกติครับ

          สำหรับจุดเด่นของแบบบ้านในโครงการผมสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ…

จุดเด่นของบ้าน

  • พื้นที่บ้านกว้าง มีครบทุกฟังก์ชัน
  • ครัวมี 2 แบบ ทั้งครัวไทยครัวต่างประเทศ
  • มีพื้นที่ส่วนกลางด้านข้างตัวบ้าน จัดเป็นที่นั่งพักเรียกว่า “SHAKKHI” (ชากิอิ) ซึ่งเป็นแนวคิดญี่ปุ่นให้ความสงบร่มรื่นเหมือนการพักผ่อนจริงๆ
  • โถงบันไดทางขึ้นระหว่างชั้น 1 – 2 สูงประมาณ 3.2 – 3.9 เมตร
  • ความสูง Floor to Ceiling จะอยู่ที่ 2.7 เมตร
  • ห้อง Master Bedroom มี Bathtub ส่วนตัว
  • สุขภัณฑ์ห้อง Master Bedroom เป็นแบบ Automatic มีรีโมทคอนโทรลในการเปิด – ปิด

ใครเหมาะจะมาซื้อที่นี่?

          ส่วนตัวผมมองว่าโครงการนี้เหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัย โดยเฉพาะกับกลุ่มที่ต้องการขยับขยายครอบครัวหรือครอบครัวใหญ่ เนื่องจากทำเลแจ้งวัฒนะนั้นถือเป็นทำเลศักยภาพที่น่าจับตามองมาโดยตลอด บวกกับการเข้ามาของรถไฟฟ้าก็ยิ่งทำให้กลุ่มนักลงทุนต่างต้องการเข้ามาพื้นที่นี้ด้วยกันทั้งนั้น และกลุ่มที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ คือ กลุ่มราชการ เพราะทำเลนี้ใกล้กับหน่วยงานราชการสำคัญๆ หลายแห่งครับ

          …ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1. ทำเล : สำหรับโครงการ AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี ส่วนตัวผมมองว่าเป็นทำเลดีมีศักยภาพ และมีโอกาสเติบโตมากมากในอนาคต ส่วนหนึ่งมาจากรถไฟฟ้าแต่ส่วนตัวผมมองว่าทำเลนี้สะดวกและเชื่อมเมืองมากครับ

2. ราคา : อย่างที่ทราบกันดีว่าแบรนด์ AIRI คือ บ้านหรูที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 9.9 ล้าน* โดยโครงการ AIRI แจ้งวัฒนะ 14 – วิภาวดี ราคาเริ่ม 11.6 ล้าน* ผมมองว่าถ้าซื้อโครงการนี้จะค่อนข้างคุ้ม ด้วยพื้นที่ที่กว้าง ส่วนกลางที่จัดมาครบทุกฟังก์ชัน และเดินทางสะดวกเข้า-ออกเมืองได้ง่าย มีเส้นทางลัดหลายเส้นทางครับ

3. ส่วนกลาง : ถือว่าโครงการจัดเต็มและให้มาดีมากสำหรับบ้านเดี่ยวระดับนี้ ตอบโจทย์ทุก Activity และค่อนข้างใหญ่เลยครับ โดยเน้นไปที่ตัว Clubhouse ที่มีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่แบบ Open ให้ลูกบ้านสามารถเทควิวสวนสีเขียวภายในโครงการได้เช่นเดียวกับ Fitness ที่อยู่ชั้น 2 ด้วยครับ

4. รูปแบบห้องและสเปก : โครงการให้สเปกมาดี เหมาะสมกับราคาที่จ่ายไปครับ รวมถึงฟังก์ชันที่ครบ และสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความเหมาะสมที่เราวางไว้ครับ ส่วนสุขภัณฑ์รวมไปถึงเครื่องครัวต่างๆ ก็เลือกสรรแบรนด์ดีมาให้ลูกบ้าน อีกทั้งโถงบันไดทางขึ้นระหว่างชั้น 1 – 2 ที่จัดมาสูงประมาณ 3.2 – 3.9 เมตร และความสูง Floor to Ceiling 2.7 เมตรก็ช่วยให้บ้านดูโปร่ง สบาย และน่าอยู่มากครับ

5. การลงทุน : ผมมองว่าโครงการนี้เหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ ครับ และเหมาะกับคนในพื้นที่ที่ต้องการขยายครอบครัว รวมถึงคนที่ต้องการความสะดวกในเรื่องของการเดินทาง โครงการนี้ก็เป็นโครงการนึงที่น่าสนใจมากครับ และกลุ่มที่เรามองข้ามไม่ได้เลย คือ กลุ่มข้าราชการ เพราะที่นี่ใกล้กับหน่วยงานราชการสำคัญใหญ่ๆ หลายๆ ที่ครับ

  หากใครสนใจโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ที่ >> http://bit.ly/2JJgRpu

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *