สืบก่อนจอง CHAPTER เจริญนคร – ริเวอร์ไซด์ 

แชปเตอร์ เจริญนคร – ริเวอร์ไซด์
CHAPTER CHAROENNAKHON – RIVERSIDE

         ใครจะรู้บ้างว่าก่อนจะเกิดแบรนด์ “Chapter” แบรนด์น้องใหม่ของทีมพัฒนาธุรกิจพรีเมียมของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ทางทีมต้องทำการบ้านมาอย่างดี เพื่อให้แบรนด์ติดตลาดและปิด Gap ช่องว่าง รวมถึงเข้าถึงลูกค้าได้อย่างฉลาด ผมต้องยอมรับเรื่องแนวคิดของทีมนี้ เพราะการคิดพัฒนาโครงการที่ดี ต้องเกิดจากการวางกรอบความคิดที่ตอบโจทย์ลูกค้าและตีโจทย์แตกในตลาดอสังหา โดยหาช่องว่างมาใส่เพื่อเติมเต็ม Gap ส่วนแบ่งของตลาด ซึ่งทีมนี้คิดมาดีจริงๆ ครับ แนวคิดก่อนเกิดแบรนด์ “CHAPTER” ซึ่งแต่เดิม จะมี 2 Brand ในการตีตลาดอยู่ก่อนหน้าแล้ว นั่นก็คือ แบรนด์ “Chapter One” มีลักษณะเป็น Boutique Brand ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสไตล์ เป็นแบรนด์ระดับกลาง-บน จับกลุ่มลูกค้า Mass ระดับราคาประมาณ 2-5 ล้าน ที่มีทั้งริมน้ำ ในเมือง ใกล้แหล่งศึกษาและห้างสรรพสินค้า และแบรนด์ “The Reserve” แบรนด์ตัว Top สุดของพฤกษา เป็นแบรนด์ Luxury Condo จับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ทำเลใจกลางเมือง แต่ด้วยภาพรวมของตลาดราคา 5-10 ล้าน เติบโตมากขึ้นด้วยราคาที่ดินที่สูงขึ้น ราคาจาก 2-5 ล้านจึงค่อยๆ เพิ่มเข้ามาเติมในตลาดระดับราคา 5-10 ล้านมากขึ้น ทำให้ทีมได้ส่งแบรนด์ “Chapter” ซึ่งเป็นน้องๆ The Reserve แต่เป็นพี่ของ Chapter One โดยจัดทำเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เป็น City love และ เป็น Lifestyle Seeker ทำเลดี ทำเลที่ใครๆ ก็อยากมาอยู่ สเปกเขยิบขึ้นมาจาก Chapter One แต่ยังไม่ถึง The Reserve และสามารถซื้อได้ในราคาเอื้อมถึงอย่าง “Chapter” ทำให้เติมเต็มแบรนด์และเพิ่มมูลค่าการขายได้ ซึ่งจากที่โครงการ Chapter ทั้ง 3 โครงการได้เปิดขายไปบ้างแล้วนั้น กระแสตอบรับดีตั้งแต่ยังไม่เปิดตัวทั้ง 3 โครงการ

         และตอนนี้โครงการ Chapter เจริญนคร-ริเวอร์ไซต์ เปิดให้ชมห้องตัวอย่างและกำลังจะเปิดให้ได้จองรอบ Open House ในวันที่ 3-4 ส.ค.นี้ครับ เรามาดูกันครับว่าความน่าสนใจของโครงการนี้มีอะไรบ้าง?

“CHAPTER” 3 โครงการ 3 คาแรคเตอร์ที่แตกต่างด้วยดีไซน์และ Lifestyle

        ก่อนอื่นผมขอขยายความเรื่องของแบรนด์ “Chapter” เพิ่มอีกหน่อยนะครับ Brand Chapter แบรนด์ใหม่ที่เติมเต็ม Gap ของราคาขายในตลาดที่จับต้องได้ และทำเลเป็นทำเลเมืองที่หายาก มาด้วยสเปกที่ดีขึ้นและดีไซน์ที่แตกต่างกันคนละคาแรคเตอร์ และต้องยอมรับอย่างนึงเรื่องของ Concept กับสเปกของ 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “CHAPTER” ที่สื่อออกมาได้ค่อนข้างชัด มีสไตล์ สเปกดี ทำให้ส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ “CHAPTER” ให้ดูเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมมากครับ ผมเลยขอพูดเรื่องของคาแรคเตอร์แต่ละโครงการของ Chapter ที่เปิดมาแล้วทั้งหมด 3 โครงการก่อนนะครับว่ามีคาแรคเตอร์แตกต่างกันอย่างไรบ้าง? 

– CHAPTER ทองหล่อ 25 ที่มาใน Concept แบบ Minimal Luxury เน้นโทนสี Copper และเน้นเล่นเส้นสาย

– CHAPTER จุฬา-สามย่าน มาใน Concept สไตล์ Modern Eccentric แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ด้วยการต่อยอดดีไซน์บางส่วนล้อไปกับดีไซน์ของ Chapter Thonglor 25 ด้วยการดึงสี Copper มาเล่นเป็นเส้นสี และการนําวัสดุที่สไตล์ดูเท่ห์แบบคลาสสิกอย่างหินขัด (Terrazzo) มาใส่ในทางเข้าโครงการ รวมถึงความเป็นเหลี่ยมมุมที่มีการต่อกันให้เข้ารูปจนทำให้ออกมาเป็นรูปแบบดีไซน์ใหม่ แบบ Modern Eccentric

และโครงการล่าสุด 

– CHAPTER เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์ คอนโดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา Concept เป็น Minimal  Luxury พร้อมเส้นสายการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวริมน้ำ ไม่ว่าจะเป็น องค์ประกอบของเรือใบ และ ประภาคาร ซึ่งผมค่อนข้างชื่นชอบโครงการนี้เป็นพิเศษทั้ง Concept และจุดเด่นของทำเลที่ติดแม่น้ำด้วยครับ

        นอกเหนือจากเรื่องคาแรคเตอร์ของแบรนด์แล้ว สิ่งที่น่าสนใจมากกว่า คือ เรื่องของ “ทำเล” ครับ เรามาดูกันครับว่าทำเลนี้ทำไมน่าสนใจ

คอนโดใหม่ ทำเลดี ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ครบทุกการเดินทาง

        คอนโด Chapter เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์  เป็นคอนโด Hi-End มี 2 อาคาร โดย อาคาร A สูง 45 ชั้น และอาคาร B สูง 43 ชั้น แถมมีอาคารส่วนกลางและที่จอดรถด้วย 1 อาคาร สูง 6 ชั้น รวมจำนวนยูนิตพักอาศัยของโครงการนี้ทั้งหมด 667 ยูนิต ซึ่งผมมองว่าน้อย มีความเป็นส่วนตัวสูงอีกต่างหากครับ และโครงการนี้ตั้งอยู่บนทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าน้ำกว่า 60 เมตร อยู่ระหว่างซ.เจริญนคร 25 และซ.เจริญนคร 27 ทำเลที่มีการคมนาคมครบเครื่อง ทั้ง รถ-เรือ-รถไฟฟ้า ผมเลยขอสรุปจุดเด่นของโครงการนี้ ดังนี้ครับ

◼️ 3 นาทีถึง BTS สถานีกรุงธนบุรี

◼️ 5 นาทีถึง Icon Siam ศูนย์กลาง Shopping

◼️ 10 นาทีเข้าสู่ใจกลางเมือง อย่างสีลม สาทร

◼️ 3 นาที ท่าเรือสาทร (โครงการเตรียม Shutle Boat ไว้บริการ)/BTS สะพานตากสิน

◼️ 5 นาที BTS กรุงธนบุรี  (โครงการเตรียม Shutter Van ไว้บริการ)

◼️ ใกล้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์กลางของการ Shopping อย่าง ICONSIAM, Asiatique the riverfront, Sena fest, River plaza

◼️ ใกล้โรงพยาบาลคุณภาพ เช่น Samitivej Thonburi Hospital, Bangkok St Louis Hospital, Taksin Hospital

◼️ใกล้โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Bangkok Christian College, Assumption College Bangkok, Shrewsbury International School Bangkok

◼️ ใกล้โรงแรมที่มีชื่อเสียง Mandarin Oriental Hotel Bangkok, Shangri-La Hotel Bangkok, The Peninsula Hotel Bangkok, Millennium Hilton Bangkok, Chatrium Hotel Riverside

         ต้องยอมรับเลยครับว่าทำเลนี้ดีมากมาก และการสร้างคอนโดอยู่บนทำเลที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ได้สร้างกันง่ายๆ ต้องศึกษามาเป็นอย่างดี ดังนั้น ทำเลกับโครงการนี้ผมเชื่อมั่นครับว่าเป็นทำเลอนาคต ที่น่าสนใจอีกโครงการนึง จากทำเลของโครงการ เราไปดูส่วนกลางกันต่อเลยครับ

ส่วนกลางระดับ Luxury รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

         โครงการนี้ยังให้ส่วนกลางระดับ Luxury และยังเห็นวิวเมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ด้วยโครงการตั้งบนโค้งน้ำเจ้าพระยา CBD ที่ส่วนตัวผมว่าสวยที่สุด เห็นทั้งฝั่ง ICONSIAM เอเชียทีค และไม่ห่างเมือง เป็นวิวแบบที่มหานครใหญ่ๆ ของโลก รวมถึงโครงการมี Sky Lounge ที่มี Observation Deck ให้ขึ้นมาดื่มด่ำบรรยากาศ ที่ไม่ต้องซื้อเป็น Penthouse แต่ลูกบ้านสามารถมาเสพบรรยากาศหรูวิวเมือง ตำแหน่งริมแม่น้ำของฝั่งเจริญนคร แต่ไม่ห่างไกลย่านธุรกิจและชีวิตสมัยใหม่ครับและไม่ต้องกังวลว่าจะเห็นวิวหรือไม่เห็น เพราะทั้ง 2 ตึก สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ทุกยูนิต เพราะอยู่บนพื้นที่และการตั้งขอตัวอาคารรับกับวิวแม่น้ำด้วยครับ เรามาดูกันครับว่าโครงการนี้ให้ส่วนกลางอะไรบ้าง?

RIVER LOUNGE : นั่งชมวิวแม่น้ำได้สบายๆ เลยครับ เรียกได้ว่านั่งรับลม ชมวิวแม่น้ำ ไม่ต้องเดินทางไปไหนเลยครับ

POOLSIDE FITNESS CENTER : รูปแบบส่วนกลางส่วนใหญ่จะเน้นให้ไปในรูปแบบของธีมเรือใบ ตามเอกลักษณ์ที่โครงการออกแบบมาครับ ดูจากส่วนกลางนี้จะเห็นได้ชัดเลยครับ ลูกค้าออกกำลังกายไปด้วย ก็ชมวิวสระว่ายน้ำไปถึงแม่น้ำอีกด้วย

CO-KITCHEN TERRACE & POOLSIDE LOUNGE : ส่วนกลางของที่นี่จะมีพื้นที่ทำครัวร่วมกันไว้ให้สำหรับทำอาหารมื้อเบาๆ ครับ หรือจะชวนเพื่อนๆ มา Party Chef Table ด้วยกันก็ได้ และยังชมวิวสระว่ายน้ำได้อีกด้วยนะครับ 

ONSEN & STEAM ROOM : และส่วนกลางที่ผมชอบ คือ มีห้องแช่น้ำ Onsen เหมือนญี่ปุ่นด้วยนะครับ เป็นแบบ semi – outdoor รับแสงและลมธรรมชาติ รวมถึงห้องสตรีม ออกกำลังกายมาเหนื่อยๆ ก็สามารถมาพักผ่อนได้ที่ตรงนี้สบายเลยครับ

SKY LOUNGE : และส่วนกลางที่เป็น Highlight ของโครงการนี้ ก็ต้องเป็น Sky Lounge ครับ เพราะได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ Panorama พูดได้เลยว่าเป็นส่วนกลางที่มีระดับ 

SWIMMING POOL & RIVER DECK : สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ มีขนาด Half Olympic และว่ายไปชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างเต็มอิ่มไปด้วย รู้สึกดีมากครับ

ACTIVE GYM : STREET BASKETBALL & FUTSAL และทางโครงการก็ยังเน้นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพ โดยมีส่วนกลางที่เป็น Active Gym โดยเฉพาะ นะครับ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ จะมีกิจกรรม Street Basketball & Futsal รวมถึงห้อง Boxing, Dancing, Yoga อีกด้วย

         นี่ก็เป็นส่วนกลางของโครงการ Chapter เจริญนคร-ริเวอร์ไซต์ ที่ดูดี มีระดับและตอบโจทย์คนทุกกลุ่มครับ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า แล้วรูปแบบห้องของโครงการนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ทุกยูนิต วิวแม่น้ำ พิเศษ 3 Bedroom หน้ากว้าง 15 เมตร (Riverfront)

        โครงการจะมีรูปแบบห้องตั้งแต่ Studio – 3 Bedroom (25.10 ตร.ม.- 151.60 ตร.ม.) โดยทุกยูนิตจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด ไม่มีการบังวิวกันเอง แบ่งตามอาคาร ดังนี้ครับ

อาคาร A : มีรูปแบบห้อง 1 Bedoom – 3 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 34-151.60 ตร.ม. 

อาคาร B : มีรูปแบบห้อง Studio – 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 25.10 – 49.10 ตร.ม.

       และทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ชมอยู่ 2 รูปแบบครับ คือ ขนาด 49.10 ตร.ม. (2 Bedroom River Front) และ 151.60    ตร.ม. (3 Bedroom River Front) เรามาดูกันครับ ว่าห้องตัวอย่างของโครงการนี้เป็นอย่างไรบ้าง

2 Bedroom ขนาด 49.10 ตร.ม.

พื้นที่นั่งเล่นหน้ากว้าง ห้องน้ำเชื่อมต่อ 2 ห้อง

          เรามาเริ่มกันที่ห้องแรกกันก่อนเลยครับ ห้องนี้เป็นห้องรูปแบบ 2 Bedroom 1 ห้องน้ำ ขนาด 49.10 ตร.ม. รูปแบบห้องนี้จะมีที่อาคาร B และห้องนี้ให้แบบ Fully Furnished ครับ และเมื่อเข้ามาเราจะเจอครัวแบบเปิดอยู่ทางด้านซ้ายมือ ส่วนทางขวามือจะมี Built-in ชั้นวางของมาให้ เดินตรงเข้ามาจะเจอพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่นั่งทานอาหาร ลักษณะแนวลึกนะครับ ส่วนห้องนอนจะมีทั้งหมด 2 ห้อง โดยมีห้องน้ำอยู่ตรงกลาง ซึ่งทั้ง 2 ห้องนอน สามารถใช้ห้องน้ำร่วมกันได้ครับ โดยห้อง Master Bedroom สามารถเปิดประตูเข้าไปได้เลย ส่วนห้องนอน 2 ต้องเดินออกมาเข้าครับ

       สิ่งที่พิเศษของห้อง คือ เพดานสูง 3 เมตร กระจกเป็นแบบ Full Height ระเบียงชมวิวมีราวกระจก การตกแต่งของห้องจะเน้นสไตล์ Minimal Luxury  ครับ เรามาต่อที่ห้องที่ 2 กันเลยครับ

3 Bedroom ขนาด 151.60 ตร.ม.

 ยูนิตพิเศษ วิวแม่น้ำ ห้องหน้ากว้าง 15 เมตร

         ห้องนี้ต้องบอกก่อนเลยครับว่าเป็น The Best ของที่นี่เลยครับ เพราะมีจุดเด่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องวิว Riverfront หน้ากว้างมาก (15 เมตร) รับวิวแม่น้ำแบบพาโนรามาแบบเต็มๆ เป็นยูนิตพิเศษที่มีจำนวน 28 Units เท่านั้น ตั้งแต่ชั้น 17 – 44 มีลิฟท์ส่วนตัว เพดานสูง 3 เมตร  พื้นไวนิล ปูลาย Herring bone ให้ความสวยหรู Digital Door lock ประตูทางเข้า ทั้ง 2 ทางเข้า-ออก แอร์ Concealed Ceiling Type มาตรฐานโรงแรมหรู ราวระเบียงเป็นกระจกเต็มบาน และ กระจกภายในห้องเป็นแบบ Full Height เต็มบาน แถมยังมี Bathtub ในห้องน้ำ Master Bedroom ด้วยครับแค่เห็นสเปกที่ให้แล้ว ผมบอกเลยว่าคุ้มมากครับ ห้องนี้ราคาเริ่ม 30 ล้านครับ ราคาเหมาะสมตามที่ให้ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า รูปแบบห้องนี้จะเป็นอย่างไร?

        ห้องนี้เป็นห้องที่มีลิฟท์ส่วนตัว เมื่อขึ้นมาถึงห้องเราจะเจอ Welcome Foyer ก่อน เดินตรงเข้ามาก็จะเจอห้องนั่งเล่น ที่มีระเบียงกว้างมากครับ รับวิวแม่น้ำแบบเต็มๆ และเป็น Double Layer สามารถปรับขนาดพื้นที่ให้เหมาะกับอารมณ์การใช้งานได้ด้วย รูปแบบนี้จะมีห้อง Maid และ Service Zone แยกออก จึงมีความส่วนตัวกับผู้อยู่อาศัย ทางขวาจะเป็นส่วนของ Master Bedroom ส่วนทางซ้าย จะมีห้องนอนอีก 2 ห้อง ซึ่งเราก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่เราสามารถดัดแปลงเป็นห้องอเนกประสงค์ที่จะจัดกิจกรรมตาม Life  Style ของเราได้ครับ

         ส่วนตัวผมมองว่า เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ที่พ่อแม่ต้องการการเดินทางที่สะดวก พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และการเดินทางง่ายทั้งทางด่วน และ BTS ให้แก่ลูกหลานครับ ผมชอบแนวคิดของการพัฒนาของโครงการนี้นะครับ เพราะทีมผู้พัฒนาตั้งใจออกแบบและเลือกสรรสิ่งที่ดีให้กับลูกค้าจริงๆ ครับ แล้วโครงการนี้เหมาะกับใคร เรามาดูกันครับ

คอนโดนี้เหมาะกับใคร?

        ในความเห็นของผม โครงการนี้เหมาะทั้งซื้ออยู่เองและลงทุนปล่อยเช่า หรือเป็นมรดกให้ลูกหลานได้ครับ เพราะราคาผมเชื่อว่าไม่มีใครกล้าขายราคานี้ เนื่องจากทำเลนี้เป็น Prime Location และมีอนาคตหลายอย่างที่เกิดขึ้นรายล้อมโครงการส่วนกลุ่มลูกค้าของโครงการจะเป็นบุคลากรโรงพยาบาล, นักลงทุน พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงพนักงานออฟฟิศบริเวณโครงการด้วยครับ

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1.ทำเล :  ทำเลดี วิวแม่น้ำ และการคมนาคมยังครบทั้ง รถ-เรือ-รถไฟฟ้า สะดวกเข้า-ออกเมืองง่าย ผมให้คะแนนทำเลเต็ม 10 ไปเลยครับ เพราะดีจริงๆ 

2.ราคา :  ราคาน่าสนใจ เพราะเริ่มต้น 3.29 ล้าน* ราคาของโครงการเฉลี่ยอยู่ที่ 167,000 บาท/ตร.มในขณะที่ตลาดไป 300,000 บาท/ตร.ม.แล้วครับ โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่เรียกได้ว่าราคาคุ้มมากครับ

3.ส่วนกลาง : โครงการให้มาเยอะ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในยุคนี้ด้วย และยังมาพร้อมกับความ Luxury และมีสไตล์ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับ Concept ของโครงการที่เป็นธีมเรือใบและประภาคาร ส่วนตัวผมมองว่ามี Concept ที่ดีและแตกต่างกับคนอื่นครับ

4.รูปแบบห้องและสเปก  :  รูปแบบห้องฟังก์ชันครบและลงตัว มีพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์คนในยุคนี้ สเปกภายในห้องของโครงการให้มาแบบ High-End ดีเกินราคาและครบเพราะเป็นแบบ Fully Furnished ผมมองว่าคุ้มมากครับ ยกเว้น 3 Bedroom ที่ให้แบบ Fully Fitted ที่เลือกออกแบบห้องตามสไตล์ของตัวเอง

5.การลงทุน : ในเรื่องของการซื้อโครงการนี้ ผมมองว่า โครงการนี้เหมาะกับทั้งซื้ออยู่เอง ปล่อยเช่าและซื้อเก็บเป็นมรดกให้ลูกหลาน เพราะด้วยทำเลที่มีศักยภาพ รวมถึงใกล้สถานที่ทำงานและโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง และราคาที่ดินตรงบริเวณนี้ก็จะสูงไปเรื่อยๆ จนมี Value ที่หาไม่ได้อีกแล้วครับ 

หากใครสนใจโครงการจะเปิดจองรอบ Open House วันที่ 3-4 ส.ค.นี้กันนะครับ 

รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 400,000 บาท*

และสามารถลงทะเบียนได้ที่ >> http://bit.ly/2JJZ6ol

 

โพสต์ไว้ที่: Review

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *