สืบก่อนจอง ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์

ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์
KnightsBridge Sukhumvit – Thepharak

วันนี้ขอมาสืบรายละเอียดโครงการใหม่จากออริจิ้นกับKnightsBridge สุขุมวิท-เทพารักษ์ บนทำเลด้านหน้าของ Kensington สุขุมวิท-เทพารักษ์ (โครงการลูกพี่ลูกน้องที่เปิดขายไปก่อนหน้า) งานนี้เรียกว่ามาอยู่ด้วยกันแบบอบอุ่น แต่ไนท์บริดจ์มาในคอนเซปต์ติดรถไฟฟ้า 0 เมตร และเพดานสูง 2.8 เมตร พร้อมส่วนกลางสวยครับ ก่อนไปดูโครงการมาดูความน่าสนใจของทำเลนี้กันก่อนครับ

“สุขุมวิท-เทพารักษ์” ทำเลอนาคตที่น่าลงทุน

          พูดถึงทำเลถนนเทพารักษ์คงเป็นที่รู้จักกันดี ของชาวสำโรง-สมุทรปราการ เพราะเป็นถนนเส้นรองสายสำคัญ ที่ตัดเชื่อมจากถนนเส้นหลักสายสุขุมวิทจากแยกสำโรงไปสู่สมุทรปราการ บางพลี บางบ่อเส้นที่มี Real Damand ทั้งคนในท้องถิ่นสมุทรปราการ พนักงานบริษัท พนักงานโรงงานรวมถึงบุคลากรโรงเรียนเอกชนและนานาชาติในแถวนั้นอยู่เยอะ แถมแหล่งจับจ่าย ร้านเด็ด ร้านอร่อย หรือถนนลัดเลาะไปห้างต่างๆในแถบสำโรง ไปจนบางนาก็ไปง่าย ไม่ยากเกินครับ          แล้วทำไมทำเลนี้น่าสนใจ ? สำหรับคนต่างถิ่น อาจไม่ทราบว่า ถนนเส้นนี้กำลังจะขยายความเจริญต่อจากการเปิดตัวของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว สำโรง-สมุทรปราการที่เปิดไปเมื่อปีที่แล้ว สู่รถไฟฟ้าสายใหม่ในอนาคตที่คาดว่าจะเปิดในปี 63 นี้ คือสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ที่เชื่อมไปยังแอร์พอร์ตลิงค์ที่อนาคตสามารถไปยังสุวรรณภูมิและดอนเมืองได้ในสายเดียว หรือจะไปยังลำสาลี แถวบางกะปิ ไปจนถึงลาดพร้าวจตุจักร ก็มีทางเลือกให้มากกว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวเหมือนเมื่อก่อนครับ

Yield ดี ค่าเช่าน่าโดน เพราะจากค่าเฉลี่ยแถวนี้ Yield 5-7% และค่าเช่าอยู่ 300-400 บาท/ตร.ม. ในขณะที่ราคาคอนโดแถวนี้ อยู่ประมาณ 85,000 – 105,000 บาท/ตร.ม. (ยกเว้นพี่ ไอดีโอ อีสต์พอยท์ ที่แสนสามกว่าๆ) ซึ่งส่วนใหญ่เปิดขายปีที่แล้วและตอนนี้กำลังก่อสร้างกัน ตามรถไฟฟ้าที่เปิดใช้บริการแล้วนั่นเอง และการจากไปสังเกตการณ์ สายนี้ไม่เงียบเหงานะครับ คนใช้เยอะเลย ไม่เหมือนสายสีม่วง

คอนโดพรีเมี่ยม ติดรถไฟฟ้า เพดานสูง ยูนิตส่วนตัว

       ไนท์บริดจ์ถือเป็นแบรนด์พรีเมี่ยมรองจากแบรนด์ Park แบรนด์หรูสุดของออริจิ้นนั่นเองครับ จึงไม่แปลกที่โครงการนี้จะออกแบบมาได้ดี แถมมีนวัตกรรมใหม่ที่หยิบยกมาจากแบรนด์ Park เลย ถือว่าน่าสนใจ ในราคาเฉลี่ย 90,000 บาท/ตร.ม. ที่จัดสเปกมาเกินราคา ไหนจะเพดานสูง 2.8 เมตรทุกห้อง และความเป็นส่วนตัวสูงเพราะมียูนิตเพียง 474 ยูนิต มี 1 ตึก ทั้งหมด 35 ชั้น ที่จอดรถ 49% เลยครับ

ตัวโครงการอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าทิพวัล 0 เมตร ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ถัดจาก สำโรง อินเตอร์เชนจ์เพียง 1 สถานี โดยตัวโมเดลกล่องสีขาวข้างๆนั้น คือทำเลของสถานีรถไฟฟ้าครับ งานนี้เดินลงจากสถานีเข้ามาเข้าจากประตูด้านหน้าโครงการได้เลยแบบไม่ต้องมีคีย์การ์ด เข้าได้ทั้งแขกและลูกบ้านครับ เพราะจะแตะบัตรเข้าโครงการอีกทีก็ที่โถงล็อบบี้เลย ส่วนรถเข้าออกถนนร่วมกับของเคนซิงตันครับ ถ้าเป็นแท็กซี่หรือรถที่วนเข้ามาส่ง ก็วงขวามาจุด Drop Off ได้เลย แต่ถ้ารถลูกบ้าน ก็แล้วซ้ายเข้าไปจอดในตึกครับ

ที่ชั้นล่างจะมีที่จอดรถจักรยาน 7 ช่อง  EV Charger 2 ช่อง และที่จอดรถอีก 3 ช่อง ส่วนร้านค้ามี 1 ยูนิต พื้นที่ 29 ตร.ม.

Urban Forest พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ 3 ฤดู

         คอนเซ็ปต์ส่วนกลางเขาเน้นธรรมชาติ ป่าไม้ พื้นที่สีเขียวของโครงการ 819 ตร.ม.เลยครับ จุดเด่นอย่างแรกเริ่มที่สวนด้านหลังโครงการ เป็นป่า 3 ฤดู ที่เลือกต้นไม้มา 3 สี บานทั้ง 3 ฤดู (เซลล์เขาว่างั้นนะ) ตามภาพก็สวยดี ร่มรื่น ต้องรอดูของจริงว่าทำได้ตามภาพรึป่าว เราไปดูรายละเอียดส่วนกลางแต่ละชั้นกันเลยครับ

 

ชั้น Ground – โถงล็อบบี้และวิวสวนร่มรื่น

นอกจากพื้นที่โดยรอบที่กล่าวไปแล้วนั้น ตัวอาคารชั้นล่างสุด เป็นโซนล็อบบี้โดยแบ่งเป็นของแขกผู้มาเยือนและของลูกบ้าน กันแยกจากกั้นครับ

ด้านหน้า คือ Visitor Lounge ที่กระจกเต็มบานไปจนถึงชั้น 2 ให้เสพบรรยากาศร่มรื่นด้านนอกได้เต็มๆ ส่วนใครจะเข้าไปยังลิฟต์และตัวส่วนกลางของลูกบ้าน ก็ต้องสแกนบัตรผ่านจุด ​Reception ที่โถงล็อบบี้ด้านหน้าครับ

ด้านหลังจะเป็นล็อบบี้ของลูกบ้าน วิวสวยครับเพราะอยู่ติดกับพื้นที่สวนด้านหลังที่ออกไปนั่งพักผ่อนได้ ต้นไม้เยอะ

ชั้น 2 – พื้นที่ส่วนรวม สำหรับทำงาน ทำครัว พบปะ

ขึ้นชั้น 2 จะเป็น Co-Working Space เน้นวิวสวนเช่นกัน งานนี้นั่งทำงานไปชมวิวด้านนอกไปเพลินๆ เพราะค่อนข้างสูงโปร่ง น่าจะสมองแล่นนะครับ

Co-Kitchen ก็มีทั้งโซนทำอาหารเล็กๆ กับมุมโต๊ะที่มานั่งปาร์ตี้กันได้ แต่คงต้องจองคิวกันดีๆนะครับ

ชั้น 11 – จุดชมวิวฟ้าสวย Sky Lounge & Garden Terrace

ที่ชั้น 11 มี Sky Garden Terrace ให้ออกมารับลมชมวิวได้นะครับ บริเวณโดยรอบตึกสูงไม่ค่อยมีนะครับ รับรองว่าแค่ชั้น 11 ก็ท้องฟ้ามองดาวได้ และมีโซนบาร์บีคิวด้วยนะ ส่วน Sky Lounge ก็อยู่ชั้นนี้นะครับ มานั่งจู๋จี๋ พูดคุย หรือนั่งคนเดียวเพลินๆก็ได้

ชั้น 30 – โซนฟิตเนสและสระว่ายน้ำวิวเมือง

มาที่ฟิตเนสกันบ้าน เขาว่าออกแบบมาสไตล์เดียวกับ Virgin Fitness ซึ่งติดกันคือสระว่ายน้ำนะครับ ออกแนวหินขาวกับน้ำสีฟ้า สวยๆเลย เน้นมานอนแช่น้ำกับว่ายชมวิวได้ แต่อาจไม่กว้างมากถึงขนาดว่ายแบบออกกำลังจริงจัง ก็ถือเป็นชั้นสำหรับออกกำลังของลูกบ้าน

ชั้นดาดฟ้า – Rooftop สวนเขียว

ใครยังชมวิวชั้น 11 ไม่เต็มตา ก็เชิญมาดาดฟ้าเลยครับ มีที่นั่งนอนนับดาวให้เลย

แบบห้องลงตัว ฟังก์ชั่นแปลนตอนลึก

         ใครเป็น FC ของออริจิ้น คงทราบดีว่าแปลนห้องของแต่ละโครงการเขาไม่ได้ออกแบบมาแตกต่างกันมาก ไม่ได้อวยนะแต่เขาออกแบบมาลงตัวแล้วจริงๆ (ผมคือหนึ่งในเหยื่อของเขาเหมือนกันแหละ) ดังนั้นภาพรวม แปลนห้องคือลงตัวกับการใช้งานในแต่ละประเภท แต่ที่เด่นของไนท์บริดจ์ก็คือเพดานสูง ซึ่งโครงการนี้มาที่ 2.8 แม้จะไม่สูงสุดแบบที่เคยทำมา แต่ 2.8 ก็โปร่งแบบลงตัวแล้วครับ เข้าไปรู้สึกโล่งกว่าคอนโด 2.4-2.5 เมตรเยอะเลย ซึ่งโหมดหลักของโครงการนี้คือห้อง 1  Bedroom 27-27.5 ตร.ม. และห้องตัวอย่างที่มีให้ชม มี 3 ห้องด้วยกันครับ

ห้อง 1 Bedroom  23 ตร.ม.
ห้องตอนลึก ครัวและห้องน้ำด้านหน้า มีมุมโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง

มาเริ่มที่ห้องเล็กสุด 23 ตร.ม. ที่ต้องบอกว่า ลงตัวครับการจัดห้องไซส์เล็กแบบตอนลึก เอาจริงๆโดนใจวัยรุ่น เพราะทำให้ห้องดูกว้างจัดวางของต่างๆได้ง่าย แบบไม่ต้องกั้นมุมห้องให้เยอะ จุดเด่นห้องนี้อยู่ที่มุมโต๊ะทำงาน ริมหน้าต่าง ที่เขาให้โต๊ะยาวๆแบบนี้เลย ผมว่าโดนใจคนรุ่นใหม่แน่นอน

ตำแหน่งห้องนี้ในชั้น 12-29 ซึ่งเป็น Floor Plan หลัก จะมีอยู่  3 ห้องต่อชั้นเท่านั้นนะครับ อยากได้ต้องแย่งชิง เราเข้าไปดูห้องตัวอย่างกันเลย

เข้ามาจะเจอโซนครัวและห้องน้ำครับ ครัวให้ตามนี้เลย สีไม้แบบนี้ มีทั้งตู้บนและล่าง Topหินสังเคราะห์ พร้อมเตา 2 หัวและที่ดูดควันของHafele ระบบหมุนเวียนอากาศ

ในห้องน้ำสุขภัณฑ์เป็นของCottoทั้งหมด ให้ตามในห้องเลยครับ พร้อมกระจกเทมเปอร์ และมี Smart Mirror ให้ทุกห้องนะครับ

ถัดจากโซนแรกจะมีบานกระจกกั้น เพื่อเข้ามาโซนห้องนอน ซึ่งมีที่วางโซฟา ข้างเตียงได้ด้วย

ห้องนอนตอนลึกทำให้ดูกว้าง ตามที่ผมบอกตอนแรกครับ แม้จะ 23 ตร.ม.แต่ชั้นวางทีวีทางโครงการเขาให้บิ้วท์อินยาวไปจนถึงตู้เสื้อผ้าเลยครับ แถมมีโต๊ะเครื่องแป้งด้วย งานนี้ใช้งานได้จริงครับ ภาพรวมห้องก็จะครบครันแบบนี้ครับ

ห้องนี้ให้แอร์ 1 เครื่องนะครับ

ที่ชอบสุดก็โต๊ะทำงานริมหน้าต่าง ที่ให้มาแบบในห้องตัวอย่างเลย เพราะจะนั่งทำงาน ทานข้าว หรือสาวๆจะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งโต๊ะใหญ่ยังได้เลย

ห้อง 1 Bedroom  27.5 ตร.ม.
ห้องเป็นสัดส่วนครัวปิด กันห้องนอนกับนั่งเล่น

ห้องนี้เป็นโหมดหลักของที่นี่ มีจำนวนเยอะสุดครับเพราะเป็นแปลนที่ลูกค้าช่วงนี้สนใจกันเยอะ ด้วยขนาด 27-27.5 ตร.ม. ที่ไม่เล็กเกินไป และด้วยการจัดแบ่งสัดส่วนห้อง ตอบโจทย์คนทำครัวได้ดีครับ ผมชอบครัวแบบนี้นะ ครัวปิด และแบ่งพื้นที่ไปไม่เยอะเกิน ใช้งานได้จริง แถมมีพื้นที่ไปให้ส่วนอื่นดีกว่าห้องครัวใหญ่ๆ

จาก 22 ยูนิต ในแต่ละชั้นเป็นห้อง Type นี้ถึง 15 ห้องครับ เกือบ 70% เลย แต่ห้องมุมตึกจะเป็นขนาด 28 ตร.ม. ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อย

มาดูในห้องกันบ้าง เข้ามาก็จะกว้างขวาง มีมุมการใช้งานเยอะและด้วยความสูง 2.8 เมตร ทำให้ห้องไม่ดูแออัดจนเกินไป

ตู้วางรองเท้าและชั้นวางทีวีแบบ L Shape ให้ตามภาพเลยครับ ยกเว้นชั้นวาง 2 ชั้นใต้แอร์นะครับ อันนั้นต้องบิ้วท์เอง

อีกฝั่งสำหรับโซฟาและโต๊ะทานข้าวสามารถเลือกซื้อมาจัดวางเองได้เลยครับ

กั้นห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอนครับ ตามภาพจะเห็นว่า ถ้าเปิดแล้วจะมีพื้นที่กว้างมาก นี่คือข้อดีของกระจกแบบ 3 ตอน ที่ใครไม่ใช่ ถือว่าเชยนะ อ้อ ในห้องนอนก็มีตู้เสื้อผ้าด้วย ตามระเบียบ

แบ่งกันชัดๆระหว่างห้องนอน กันห้องครัวปิดริมระเบียง ตู้เสื้อผ้าอยู่ด้านนอกครับ มีที่วางพอดีครัวก็ตามภาพครับ มีเตาและเครื่องดูดควันเหมือนกันทุกห้องพื้นที่ตรงกลางระหว่างห้องครัวและห้องน้ำจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและชั้นเก็บของสูงไปถึงฝ้าเพดานครับ เรียกว่าใช้ทุกพื้นที่ได้คุ้ม ส่วนห้องน้ำก็เหมือนห้องแรกและมี Smart Mirror เช่นกัน

ห้อง 1 Bedroom Plus  30.5 ตร.ม.
พื้นที่ลงตัว พร้อมห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง

มาถึงห้องสุดท้าย กับแปลนขวัญใจหลายคนที่อยากได้ 2 ห้องนอน แต่งบจำกัด หรืออยากได้ 1 ห้องนอนแต่ขอเพิ่มห้องเล็กเพื่อต่อเติมการใช้งานตามสไตล์ ไม่ว่าจะห้องนอนเล็ก ห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัวก็ได้หมด ดังนั้นห้องนี้ตอบโจทย์ครับกับ 1 Bed Plusมีแค่ 2 ห้องต่อชั้นเท่านั้นนะครับ

มาดูห้องกันต่อ เข้ามาก็คล้ายๆห้อง 1 Bedroom นะครับ แต่เปลี่ยนจากห้องครัว เป็นห้องอเนกประสงค์ที่จะจัดวางอะไรก็ได้ ตามห้องตัวอย่างวาง Sofa Bed ไว้นอนเล่นได้ครับ

พาไปดูห้องอเนกประสงค์กันก่อนเลยแล้วกันครับ เอาจริงๆถ้าแต่งดีๆ สามารถทำเป็นห้องทำงานพร้อมตู้วางหนังสือ หรือสาวๆจะบิ้วท์เป็นห้องแต่งตัวกับตู้เสื้อผ้าก็ได้หายห่วงสัดส่วนห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ก็ตามภาพครับ ห้องนี้ยกครัวมาไว้ตรงกลางคั่นระหว่างห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ครับ เหมาะกับคนไม่ทำครัวมาก แค่เวฟอาหาร หรือซื้อมาทาน แต่ถ้าจะทำก็ได้นะครับ มีเครื่องดูดควันกับเตาให้พร้อมแล้ว โต๊ะอาคารบิ้วท์อินให้แบบพับได้นะครับ วางข้างตู้เย็นและโซฟาไว้หน้าทีวีครับ ใครสนใจดูของจริงไปดูที่สำนักงานขายได้เลยนะครับSmart Miror ที่แรกของ KnightsBridge พร้อม Home Automation

          ตอนที่ผมเข้าไปที่ห้องน้ำของห้องตัวอย่าง ผมก็แอบเซอร์ไพรส์นิดหนึ่งครับว่าโครงการนี้มี Smart Miror ด้วยหรอ? เพราะผมยังไม่เคยเห็นในแบรนด์ของ Knightsbridge แต่ที่โครงการนี้ให้เป็นที่แรกของแบรนด์นี้ ซึ่ง Smart Mirror เป็นกระจกอัจฉริยะ ระบบ Android Touchscreen ที่ติดภายในห้อง และเชื่อมต่อ Intenet เช็ค E-Mail, Facebook,Youtube Netflixและ Line ได้อีกด้วยครับ ซึ่งผมชอบนะ เพราะสะดวกสบายกับผมดีครับ  

Excellent Service By PRIMO

          และนอกจาก Smart Mirror ที่ให้โครงการมาแล้ว ทางโครงการยังมี Smart Service ที่เป็นการบริการทำความสะอาดห้องพักฟรี เดือนละ 2 ครั้ง นานถึง 1 ปี ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าเป็นบริการที่น่าสนใจและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในยุคนี้จริงๆ ครับ เพราะบางคนไม่ค่อยมีเวลาในการทำความสะอาดห้อง หากมีบริการแบบนี้ให้ลูกค้า จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคนี้ได้อย่างแน่นอนครับ

โครงการนี้เหมาะกับใคร?

          ส่วนตัวผมองว่า เหมาะกับพนักงานที่ทำงานหรือคนที่อาศัยอยู่บริเวณสุขมวิท บางนา รวมถึงชาวต่างชาติ Expat ที่ต้องหาห้องเช่าแถวโซนสุขุมวิทไว้พักอาศัย จะเห็นได้จากการที่มีการขยายตัวของชาวต่างชาติมากขึ้นในบริเวณนี้ รวมถึงราคาที่จับต้องได้ บนทำเลที่น่าลงทนและครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ผมเลยมองว่าคนที่มาซื้ออยูเองก็ตอบโจทย์ คนที่จะลงทุนก็ลงทุนได้คุ้มค่า ดังนั้น โครงการบนทำเลนี้ สามารถซื้ออยู่เองหรือจะลงทุนก็ได้ครับ

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1.ทำเล : ส่วนตัวทำเลตรงนี้ ผมมองว่าทำเลตรงนี้น่าลงทุน เพราะรถไฟฟ้าสายอนาคตด้วยส่วนนึง เพราะโครงการนี้ติด MRT ชนิดที่ว่า 0 เมตร สถานีทิพวัล นอกเหนือกว่านั้น คือ การที่ที่ดินตรงโซนนี้มีอัตราการเติบโตและ Capital Gain สูงขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึง Yiled การปล่อยเช่าของโซนนี้สูงถึง 5-7% เพราะมีความต้องการของ Demand เนื่องจากมีการขยายตัวของชาวต่างชาติที่ต้องการเช่าห้อง รวมถึงพนักงานโรงงานแถวโซนสุขุมวิท ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยนะครับ ผมถึงมองว่าทำเลตรงนี้น่าลงทุนเป็นอย่างมากครับ2.ราคา : เริ่ม 2.09 ล้าน* แบบ Fully Fitted แต่เป็น Fitted แบบที่ให้ Furniture Built-in ครบชุดด้วยนะครับ ได้ห้องสูง 2.8 เมตร และราคาเฉลี่ย 90,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งราคาถูกกว่าในตลาดของโซนนี้ รวมไปถึงราคาของ Kensington ที่เป็นโครงการพี่โครงการน้อง ปัจจุบันยังราคาประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม. เช่นกันครับ ผมเลมองว่าราคานี้ถือว่าคุ้มค่าแก่การซื้อไว้ครับ

3.ส่วนกลาง  : ผมชอบส่วนกลางของที่นี ที่ให้สวนและพื้นที่สีเขียวเยอะ 1 ไร่ และมีส่วนกลางถึง 15 รายการ รวมไปถึงสเปกหรือฟังก์ชันใช้งานของส่วนกลางก็ตอบโจทย์และครบครัน และการที่โครงการกสเปกบางอย่างของแบรนด์ Park Origin เข้ามาใส่ก็ถือว่าให้ความคุ้มค่าค่อนข้างมากกับลูกค้าครับ4.รูปแบบห้องและสเปก  : อย่างที่ผมได้พูดไปครับว่าเป็นรปแบบห้องที่ผมค่อนข้างชื่นชอบของ Origin แบบห้องดูลงตัว ฟังก์ชั่นเน้นแปลนตอนลึก แต่ห้องให้ความสูง 2.8 เมตร ซึ่งถือว่าสูงกว่าคอนโดทั่วไป ทำให้ควมรู้สึกไม่แอร์อัดเกินไป และส่วนตัวผมชอบห้องที่มี Floor To Ceiling สูงครับ สเปกของที่ให้ภายในห้องก็ให้มาดี รูปแบบ Mood&Tone ของชุดเฟอร์นิเจอร์ก็ดูลงตัว รวมไปถึงการมีระบบ  Home Automation แอปพลิเคชั่นที่ช่วยเปิด-ปิดไฟ และเครื่องปรับอากาศ ซึ่งสร้างความสะดวกสบายให้อีกด้วยครับ

5.การลงทุน : โครงการนี้ผมมองว่าเหมาะทั้งซื้ออยู่เองหรือจะลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อได้หมดครับ เพราะด้วยศักยภาพของทำเลที่เป็นทำเลที่น่าลงทุน ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ รวมไปถึง Yiled การลงทุนทีมี% ที่สูง ทำให้ผมมองว่าตอบโจทย์ทุกกลุ่มเลยครับ

 

และวันที่ 17 มี.ค.นี้ โครงการจะเปิดให้จองรอบ Pre-Sales

ใครสนใจลงทะเบียน เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บ.* ได้ที่ >>

https://bit.ly/2XCUUwB

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *