สืบก่อนโอน ไนท์บริดจ์ ติวานนท์

ไนท์บริดจ์ ติวานนท์
Knightsbridge Tiwanon

นอกจากโครงการใหม่ที่น่าติดตามแล้ว ผมมองว่าโครงการพร้อมอยู่ก็เป็นโครงการประเภทนึงที่น่าสนใจเช่นกัน เพราะถึงแม้ว่าจะเปิดขายมานานจนสร้างเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะขายดีหรือไม่ดีช่วงตอนเปิดขาย แต่สิ่งที่จะบอกว่าโครงการนี้ดีหรือไม่ดี คุณภาพหรือไม่นั้น ผมมองว่าต้องมาดูตอนที่โครงการสร้างเสร็จประกอบด้วยถึงจะครบถ้วน และทำเลนึงที่ผมสนใจสำหรับโครงการสร้างเสร็จแล้ว ก็คือ ย่านนนทบุรีใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง (และยังเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีเตาปูนอีกด้วย) เพราะรถไฟฟ้ามีการเปิดให้บริการแล้ว และถึงแม้ว่ารถไฟฟ้าสายสีม่วงจะไม่ได้เป็นไปตามคาดแต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากการที่มีประชากรเริ่มใช้บริการเพิ่มขึ้นนั่นเองครับ ดังนั้น ผมจึงสนใจที่จะขอพูดถึงโครงการพร้อมอยู่ในย่านนี้ เพราะทำเลนี้ผมมองว่ายังเป็นทำเลใกล้เมือง ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน และเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก โดยโครงการนึงที่ผมมองว่าน่าสนใจ ก็คือ “โครงการ Knightsbridge Tiwanon” โครงการ Flagship ของออริจิ้น และยังเป็น Brand ระดับพรีเมี่ยมรองจาก Brand Park Origin ตัวแพงสุุดอีกต่างหาก แต่ถึงแม้ว่าจะเป็น Brand ระดับพรีเมี่ยมก็ตาม แต่ราคาของ Knightsbridge Tiwanon ก็จับต้องได้ มาดูกันครับว่า โครงการนี้น่าค้นหาคำตอบและตอบโจทย์กับใครบ้าง? โดยรวมทุกคำถามมาตอบไว้ที่บทความนี้ครับ

ทำเล “ติวานนท์” มีอะไรดี?

ทำเลนี้มีอะไรดี นอกจากอยู่ใกล้เมืองแล้ว ตรงบริเวณนี้ยังมีอะไรดีอยู่บ้าง เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันที่คอนโด “Knightsbridge Tiwanon” ซึ่งเป็นคอนโดที่อยู่บนถนนติวานนท์ตอนต้น ใกล้แยกแคราย และเป็นคอนโดที่ใกล้รถไฟ้ฟ้าสายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุขที่สุดบนเส้นติวานนท์ครับ

1.ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง

โครงการ  “Knightsbridge Tiwanon” เป็นคอนโด High Rise ที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีกระทรวงสาธารณสุข เพียง 70 เมตร ซึ่งความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่าใกล้มากครับ เพราะเป็นระยะเดินได้ ไม่เหนื่อย ทำให้คนที่ต้องการเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้ามีความสะดวกสบายมากขึ้น และรถไฟฟ้าสายสีม่วงยังเป็นรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีเตาปูน ได้อีกด้วย ทำให้ในอนาคตเมื่อโครงการสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นสถานีระบบรางขนาดใหญ่ของประเทศไทยสร้างเสร็จ คนที่อยู่ทำเลติวานนท์ก็ยิ่งจะสะดวกมากขึ้นไปอีกเพราะสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองด้วยการคมนาคมระบบรางได้ง่ายขึ้น

2.10 นาที ถึงทางด่วนศรีรัช

นอกจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้ว โครงการยังใกล้ทางด่วนศรีรัช ซึ่งเป็นทางด่วนที่สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ไม่ว่าจะเดินทางเข้าเมืองไปงามวงศ์วาน, วิภาวดีรังสิต หรือลาดพร้าวก็ได้หมด หรือจะเดินทางออกเมืองไปทางนนทบุรี,พระราม 2, บางแค, ราชพฤกษ์ ก็สามารถเดินทางได้สะดวก ใช้เวลาในการเดินทางไม่เกิน 10 นาทีก็ขึ้นทางด่วนได้แล้ว ทำให้ย่นระยะเวลาในช่วงเวลาที่รถติดได้

3.เดินทางได้หลากหลายเส้นทาง

ทำเล “ติวานนท์” เป็นทำเลที่เชื่อมต่อหลายเส้นทางหลัก ไม่ว่าจะเป็นเส้นถนนติวานนท์, ถนนงามวงศ์วาน, ถนนวงศ์สว่าง, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนราชพฤกษ์, ถนนรัตนาธิเบศร์ เป็นต้น ซึ่งการที่โครงการสามารถเดินทางได้หลากหลายเส้นทางนั้น ก็จะทำให้มีทางเลือกที่จะเดินทางเวลาเร่งด่วนได้ค่อนข้างเยอะ ไม่ต้องรอแค่เส้นทางเดียวกว่าจะไปถึงจุดหมายก็อาจจะทำให้เสียเวลาได้ ดังนั้น หากทำเลไหนเดินทางได้หลากหลายเส้นทางก็ย่อมได้เปรียบในเรื่องของการเดินทางมากขึ้น

4.ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

จุดเด่นของทำเลโครงการ “Knightsbridge Tiwanon” นอกจากใกล้รถไฟฟ้าเพียง 70 เมตรแล้ว ยังเป็นโครงการที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ใกล้สถานที่ราชการหลายแห่ง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข, ศูนย์ราชการนนทบุรี ใกล้ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี้ ติวานนท์, โลตัส แคราย, เอสพลานาด งามวงศ์วาน, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน, พันธุ์ทิพย์พลาซ่า, ใกล้โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น และโรงพยาบาลนนทเวช, ใกล้สวนสาธารณะ 1,000 ไร่ ของกระทรวงสาธารณสุข และไม่ต้องกลัวอดและตอบโจทย์สำหรับคนชอบทำอาหารทานเองหรือพนักงานบริษัท เพราะโครงการนี้ยังใกล้ “ตลาดสดเรวดี” ตลาดขายส่งครบวงจร เปิด 24 ชั่วโมง คนวัยทำงานที่ทำงานไม่เป็นเวลาหรือกลับบ้านดึกไม่ต้องกลัวแล้วว่าจะไม่มีร้านค้าเปิดขายอาหาร เพราะตลาดนี้เปิด 24 ชม. อันนี้ถือว่าดีครับ เพราะสมัยนี้คนวัยทำงาน ส่วนใหญ่ก็ทำงานกันแบบไม่มีจำกัดเวลา และนอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร Street Food บริเวณรอบๆ โครงการอีกหลายร้าน รวมถึงร้านกาแฟ NL Coffee ร้านกาแฟเปิดใหม่ เป็นคาเฟ่ที่เปิดขายกาแฟเบเกอรี่ รวมไปถึงผลิตกาแฟและเปิดคอร์สสอนทำกาแฟอีกด้วย ร้านนี้ต้องบอกเลยว่าน่าจะเป็นร้านขวัญใจของคนชอบกาแฟครับ

ส่วนกลาง Rooftop  วิว 360 องศาจริงหรอ?

อย่างที่ผมเคยบอกว่าถ้าหากจะหาคอนโดที่มีส่วนกลางดีและวิวสวย ทำไมต้องไปหาแค่คอนโดในเมืองอย่างุสุขุมวิทที่ราคา 200,000-300,000 บาท/ตร.ม. เพราะทำเลทางเลือกอย่างทำเล “ติวานนท์” ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นทำเลใกล้เมือง และเดินทางสะดวกเหมือนกัน แต่มากไปกว่านั้นคือ วิวที่สวยบนส่วนกลางดีๆ ครบ 360 องศารอบทิศ บนชั้น Rooftop ผมมองว่าโครงการ “Knightsbridge Tiwanon” ก็เป็นโครงการนึงที่ตอบโจทย์เรื่องนี้นะครับ เรามาดูวิวของโครงการนี้กันครับว่าครบรอบทิศ 360 องศาจริงหรอ? แล้วส่วนกลางที่ให้มีอะไรบ้างครับ

ทิศเหนือ เห็นวิวสระว่ายน้ำ แนวเส้นรถไฟฟ้า และเส้นถนนติวานนท์กับถนนรัตนาธิเบศร์

ทิศใต้ (ด้านซ้ายมือของโครงการ) เห็นวิวสถานีรถไฟฟ้ากระทรวงสาธารณสุขสุข

ทิศตะวันออก วิวสวน 1,000 ไร่ ของกระทรวงสาธารณสุข ดูเขียวชะอุ่มสบายตาด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

ทิศตะวันตก วิวด้านหน้าโครงการ ติดถนนติวานนท์

ส่วนตัวผมชอบวิวทิศเหนือและทิศตะวันออกครับ เพราะวิวทิศเหนือ ได้เห็นวิวสระว่ายน้ำยามค่ำคืนคงสวยเพราะว่ายน้ำไปเห็นวิวเมืองไปด้วย ส่วนวิวทิศตะวันออก ผมมองว่าเวลาผมเหนื่อยล้าจากการทำงานแล้วต้องการพักผ่อนสายตา การมองสีเขียวหรือพื้นที่สีเขียวจะช่วยให้ความเหนื่อยล้าเหล่านั้นหายไปครับ และนอกจากวิวที่โครงการ สามารถชมวิวได้รอบทิศถึง 360 องศา แบบที่ไม่มีตึกสูงมาบังตาแล้ว โครงการนี้ยังให้ส่วนกลางที่ครบ ดูหรูหรา มีระดับ โดยเฉพาะส่วนกลางบนชั้น Rooftop เรามาดูกันครับว่าโครงการนี้ส่วนกลางบนชั้น Rooftop มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ?

ส่วนกลางชั้น Rooftop ส่วนกลาง 3 ระดับ

Sky Swimming Pool  (ชั้น Rooftop)

สระว่ายน้ำบนชั้น Rooftop ที่ผมมองว่าเป็นสระว่ายน้ำที่มีขนาดใหญ่นะครับ ไม่ได้เล็ก ระดับความลึกของสระว่ายน้ำ เป็นระดับมาตรฐาน 1.2 เมตร บริเวณสระว่ายน้ำมี Day Bed ให้บริการ ต้องบอกเลยว่าสระว่ายน้ำเป็นส่วนกลางที่สามารถ Take วิวเมืองได้สวยงามด้วยครับ เพราะมองออกไปจากสระว่ายน้ำ เห็นวิวแบบเต็มตามากครับ

Lobby แบบ Super High Celling (ชั้น Rooftop)

ไม่ผิดครับที่ต้องบอกว่า Lobby ของโครงการนี้เป็นแบบ  Super High Celling เพราะความสูงของ Lobby ทั้งชั้น Ground และชั้น Rooftop ของโครงการนี้ให้ถึง 5.2 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นความสูงที่สูงกว่า Lobby ธรรมดาทั่วไปที่ให้ความสูงประมาณแค่ 3 เมตรครับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วโครงการที่จะให้ Lobby แบบ  Super High Celling จะเป็นคอนโดระดับพรีเมี่ยมเท่านั้นครับ และนอกจากความสูงแล้ว พื้นที่ Lobby ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงาน อ่านหนังสือ และสามารถนั่งชมวิวด้านนอกได้ด้วย

Private Relax Garden  (ชั้น Rooftop)

สวนแบบส่วนตัว มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ และสวนของชั้นนี้ สามารถชมวิวได้รอบทิศถึง 360 องศา และสามารถจัดเป็นพื้นที่ปาร์ตี้ได้อีกด้วย

Private Fitness  (ชั้น Rooftop)

ฟิตเนสผมมองว่าให้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง เพราะฟิตเนสยกระดับไปที่ชั้น 3 ของส่วนกลางชั้น Rooftop มีอุปกรณ์ที่ครบครัน และยังสามารถ Take วิวสระว่ายน้ำและวิวเมืองทางทิศเหนือได้อีกด้วยครับ ซึ่งผมชอบฟิตเนสของที่นี่นะครับ ถึงแม้ว่าอาจจะดูเล็กไปหน่อยแต่โดยรวมถือว่าดีครับ

และนอกจากส่วนกลางชั้น Rooftop ที่เป็นไฮไลท์ของโครงการนี้แล้ว ยังมีส่วนกลางชั้น 7 และชั้น Ground มาดูส่วนกลางที่เหลือกันนะครับว่ามีอะไรที่พิเศษบ้าง?

Private Relax Garden  (ชั้น 7)

ถึงแม้ว่าโครงการจะใกล้สวนสาธารณะของกระทรวงสาธารณสุขที่มีพื้นที่ขนาด 1,000 ไร่ก็ตาม แต่โครงการก็ยังจัดส่วนกลางให้ลูกค้าด้วยพื้นที่สีเขียวอย่างสวนที่ให้ความเป็นส่วนตัวถึง 2 ชั้น คือ ชั้น 7 และชั้น Rooftop เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้บริการหากต้องการชมสวนหรือมีพื้นที่จัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ได้อย่างสะดวกสบายไม่ต้องไปเช่าพื้นที่ข้างนอกครับ ถือว่าเป็นโครงการที่ให้พื้นที่สีเขียวรองรับลูกค้าได้อย่างเต็มที่

Lobby แบบ Super High Celling  (ชั้น Ground)

Lobby ชั้น Ground ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง และมีพื้นที่ใหญ่ อีกทั้งยังมีมุมนั่งอ่านหนังสือและนั่งทำงาน พร้อมที่นั่งรับแขก เพิ่มความสะดวกสบายเวลามีเพื่อน/ญาติมาหาเราด้วย ซึ่งถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของคนที่อยู่ที่นี่ครับ

โดยรวมส่วนกลางที่นี่ ส่วนตัวของผมให้คะแนนความพึงพอใจระดับดีมากครับ เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนที่อยู่อาศัยจริงๆ และฟังก์ชันต่างๆ ของส่วนกลางทุกพื้นที่ สามารถใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมต้องห้องรูปแบบ Duo Space?

มาถึงจุดไฮไลท์ที่โครงการเคลมมาก คือ เป็นคอนโด 2 ชั้นในย่านนนทบุรี ใช้ชีวิตที่สูงกว่า ตอนแรกผมก็สงสัยว่าทำไมต้องคอนโด 2 ชั้น ผมก็นึกไปว่าหรือโครงการนี้สร้าง 2 ชั้นแบบบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์หรอ? จนสุดท้ายผมก็ได้คำตอบ คือ โครงการทำรูปแบบห้องแบบ Duo Space หรือรูปแบบ Duplex ที่เรารู้จักกันดีนั่นแหละครับ เป็นยูนิตห้องที่มีความสูงของห้องที่สูงกว่าห้องมาตรฐานและมีพื้นที่ชั้นบนไว้ใช้งานได้ด้วยครับ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า หากเราจะซื้อห้องสักหนึ่งห้อง ทำไมต้องเลือกห้องรูปแบบ Duo Space และทำไมโครงการนี้ถึงเน้นทำห้องยูนิตนี้ด้วยสัดส่วนที่เกินครึ่งของจำนวนทั้งหมด

ห้องรูปแบบ Duo Space

โครงการนี้มีห้องรูปแบบ Duo Space ตั้งแต่ขนาด 25.90 – 58.00 ตร.ม. (ยังไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย) และมีห้องตัวอย่างให้ชม 1 ห้อง เป็นห้องขนาด 28.90 ตร.ม. ด้านบนมีพื้นที่ประมาณ 10 ตร.ม. ซึ่งฟังก์ชันห้องที่ผมลองเข้าไปดูแล้วดูลงตัวและเน้นในการเพิ่มพื้นที่การใช้งานด้วยการขยายความสูงของห้องเป็น 4.2 เมตร จากห้องปกติสูง 2.6 เมตร ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ Penthouse มีความเป็นส่วนตัวเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ด้านล่างจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น, ห้องครัว, ห้องน้ำ และมีพื้นที่ Multi-Function ที่ทำเป็นพื้นที่นั่งทำงาน ส่วนห้องชั้นบนจะเป็นห้องนอนโดยเฉพาะ ทำให้ดูเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากๆ  ซึ่งหากใครที่มีงบประมาณจำกัดแต่อยากได้ที่อยู่อาศัยอารมณ์เพนท์เฮ้าส์หรือบ้านเดี่ยว ที่นี่ผมมองว่าตอบโจทย์ เพราะที่นี่มีสัดส่วนของห้องยูนิตแบบนี้เกือบครึ่งจากจำนวนทั้งหมด 373 ยูนิต ซึ่งรองรับความต้องการได้มากกว่าโครงการอื่นที่มียูนิตประเภทนี้ไม่ถึง 10 ยูนิตด้วยซ้ำ นี่แหละครับคือเหตุผลที่ทำไมต้องห้องรูปแบบ Duo Space? เพราะผมมองว่าคุ้มทั้งราคา, พื้นที่และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตครับ

รูปแบบห้อง Mono Plex เป็นแบบไหน?

นอกจากห้องที่เป็นจุดขายของโครงการอย่างห้องรูปแบบ Duo Space แล้ว โครงการยังมีห้องรูปแบบ Mono Plex ที่น่าสนใจอีกซึ่งมีทั้งแบบ 1 ห้องนอน, 1 Bed Plus และ 2 ห้องนอน ตั้งแต่ขนาด 25.90 ตร.ม. – 58.40 ตร.ม. โดยวันนี้ผมจะพาไปชมห้องตัวอย่างที่มีทั้ง 3 รูปแบบของโครงการ ว่าแต่ละห้องมีฟังก์ชันเป็นยังไงและเหมาะกับใครบ้าง?

1 Bed 28.70 – 29.50 ตร.ม. ฟังก์ชันครบ สัดส่วนลงตัว

ส่วนตัวผมมองว่าห้องนี้การจัดรูปแบบห้องดูลงตัวและฟังก์ชันครบ ครัวเป็นแบบครัวปิด ห้องนี้ผมมองว่าเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นใช้ชีวิต แต่ต้องการห้องที่มีฟังก์ชันครบแบบไม่อึดอัด โดยรูปแบบห้องนี้ เมื่อเดินเข้ามาที่ห้องจะเจอพื้นที่นั่งเล่น และห้องน้ำ ห้องนอนจะมีบานเลื่อนกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนและด้านข้างจะเป็นพื้นที่ห้องครัวที่เป็นแบบปิดมีบานเลื่อนกั้นเหมือนกัน ส่วนที่ชอบของห้องนี้ คือ การเพิ่มพื้นที่ฟังก์ชันโต๊ะทำงาน, พื้นที่ชั้นวางรองเท้า ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวันแต่ไม่ดูอึดอัดหรือกินพื้นที่เกินไปครับ

1 Bed Plus 43.40 ตร.ม. พื้นที่นั่งเล่นกว้าง ห้องนอนพื้นที่ลงตัว

ห้องนี้ส่วนตัว ตอนแรกที่ผมเดินเข้าไปตกใจนิดนึงครับ แปลกใจที่ว่าทำไมห้องดูกว้างบริเวณห้องนั่งเล่น ห้องครัวแบ่งกั้นเป็นสัดส่วนกั้นเป็นห้อง ส่วนห้องนอน Master และห้องนอนเล็กดูลงตัวไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป โดยรวมห้องนี้ผมมองว่าตอบโจทย์คนที่เริ่มมีครอบครัว มีลูกสัก 1 คน กำลังพอเหมาะ ส่วนห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือทางพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน Master ซึ่งถือว่าสะดวกกรณีที่มีเพื่อนหรือญาติมาเยี่ยมครับ  

2 Bed 51.40 – 58.40 ตร.ม. เน้นพื้นที่ห้องนอน ห้องนั่งเล่น

ห้องนี้ผมมองว่าเหมาะกับครอบครัวใหญ่ได้เลยครับเพราะพื้นที่ใหญ่ ห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่นมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ส่วนห้องครัวเป็นแบบปิด และมีห้องน้ำ 2 ห้อง โดยมีในห้อง Master 1 ห้องและเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่ด้านนอกห้องนอนสามารถใช้งานได้ 1 ห้อง โดยส่วนตัวผมมองว่าสะดวกดีครับที่มีห้องน้ำถึง 2 ห้อง มีพื้นที่ชั้นวางรองเท้าตรงประตูหน้าห้อง แต่แอบเสียดายที่ห้องนี้ไม่มีพื้นที่ Multi-Function อย่างโต๊ะทำงานหรือ Walk in Closet เพิ่มเติม หากมีจะดีมาก แต่โดยรวมห้องนี้ดูลงตัวเหมาะกับครอบครัวใหญ่

โดยรวมของรูปแบบห้องของโครงการนี้ ผมมองว่าโครงการวางรูปแบบและฟังก์ชันมาตอบโจทย์ลูกค้าเกือบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม First Jobber, กลุ่ม Family หรือคู่แต่งงาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างครบทุกด้านการอยู่อาศัยครับ

ราคา 8x,xxx บ./ตร.ม. Fully Furnished สเปกดี คุ้มไหม?

ส่วนตัวความคิดเห็นของผม คอนโดในราคา 8x,xxx บ./ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้า 70 เมตรและยังรายล้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง รวมถึงเดินทาง-เข้าออกเมืองได้ง่าย ผมมองว่าคุ้มอยู่แล้วครับ ยิ่งเป็นโครงการตามแนวรถไฟฟ้าและพร้อมอยู่แล้วราคายิ่งเพิ่มมูลค่าไปไกล ดูจากหลายๆ โครงการ เพราะปัจจุบันราคาโครงการที่พร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ส่วนใหญ่ราคาก็ประมาณ 100,000 บ./ตร.ม. ขึ้นไป และถ้าโครงการไหนมีโปรโมชั่นแถมเฟอร์นิเจอร์ให้ทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัว ผมบอกเลยครับยิ่งกว่าคุ้ม ยิ่งกว่าตอนซื้อของเซลในห้างอีก ดังนั้น ผมมองว่า โครงการ ”Knightsbridge Tiwanon” ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจ เพราะโครงการนี้ขายแบบ Fully Furnished มีทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวและแบบ Built-in และราคาขายก็เป็นราคาตอน Pre-Sale ของโครงการ ซึ่งโดยปกติราคาซื้อตอนสร้างเสร็จจะไม่ได้ในราคานี้ แถมสเปกของโครงการก็ให้มาตามแบรนด์ที่เป็นระดับพรีเมี่ยมของออริจิ้น สเปกคือดีครับ แอร์เป็นแบบ Wall Type ยี่ห้อ Daikin, Hood&Hob แบรนด์ Teka, Digital Door lock ยี่ห้อ Sumsung มี 3 ระบบ คือ Password, Key Card และกุญแจ, ไฟให้แบบ Downlight LED ทรงสี่เหลี่ยม   และสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Mogen จึงไม่แปลกใจที่ตอนนี้โครงการจะขายไปได้แล้วประมาณ 80% และมีลูกบ้านเข้าอยู่แล้ว 66% ผมเลยมองว่าโครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าลองเข้าไปเยี่ยมชมดูนะครับ เพราะอีกหน่อยทำเลโครงการนี้อาจจะเป็น New CBD อีกแห่งในอนาคตก็เป็นได้ครับ

ใครที่ควรมาซื้อคอนโดนี้?

โครงการนี้เหมาะกับพนักงานบริษัท, ข้าราชการ รวมถึงคนที่ต้องการขยับขยายครอบครัวแต่ยังอยากที่จะอาศัยอยู่ทำเลเดิม และโครงการนี้จะเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ต้องการที่พักอาศัยใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวกหลายเส้นทาง มีแหล่งช้อปปิ้ง, โรงพยาบาล ใกล้แหล่งของกิน มีความเป็นแหล่งชุมชน แต่มีงบประมาณที่จำกัดที่ไม่สามารถซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าใจกลางเมืองได้ครับ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า ห้อง Duo Space เป็นรูปแบบห้องที่คุ้มที่สุดของโครงการ ด้วยพื้นที่ที่ได้มากกว่าและราคาถูกกว่าห้องรูปแบบอื่น ดังนั้น หากใครสนใจคอนโดใกล้เมือง ใกล้รถไฟฟ้า ราคาไม่แพงมาก และพื้นที่ใหญ่ ผมก็คิดว่าโครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ….

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1.ทำเล :   ส่วนตัวผมมองว่า ทำเลนี้ตอบโจทย์คนที่ต้องการคอนโดใกล้รถไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ เพราะทำเลนี้ก็ถือว่าเป็นทำเลเมือง ไม่ได้ไกลมาก แถมเดินทางได้สะดวกสบาย มีรถบริการสาธารณะด้วย ดังนั้น ทำเลนี้ผมถือว่าใครอยู่คือคุ้มค่ากับการใช้ชีวิตครับ

2.ราคา : ราคา 8x,xxx บ./ตร.ม. ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ แถมสเปกดี ส่วนกลางจัดเต็ม ทำเลใกล้รถไฟฟ้า 70 เมตร ส่วนตัวผมมองว่า คุ้มมากครับ เพราะมีแต่ข้อดี แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในทำเลเมืองอย่างสุขุมวิท, รัชดา หรือ พระราม 9 ก็ตาม แต่ผมมองว่าทำเล “ติวานนท์” เป็นทำเลใกล้เมือง แถมเดินทางง่าย สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน ดังนั้น ราคา 8x,xxx บ./ตร.ม. ถือว่าคุ้มค่า จับต้องได้

3.ส่วนกลางและสเปกภายในห้อง : ไฮไลท์ของที่นี่คงต้องยกให้ส่วนกลางชั้น Rooftop และแนวการขายเรื่องของ Super High Celling ทั้ง Lobby และห้องแบบ Duo Space ที่ต้องยอมรับว่าส่วนกลางมาแบบจัดเต็มและมีความพรีเมี่ยมตาม Segment ของแบรนด์ ส่วนตัวที่ชอบที่สุด คือ ส่วนกลางบนชั้น Rooftop ที่แถมวิวสวยรอบทิศ 360 องศา รวมถึงสเปกห้องที่ให้สเปกมาดีตามแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ใส่มาครับ

4.รูปแบบห้อง : การจัดวางฟังก์ชันและแบ่งสัดส่วนของรูปแบบห้องค่อนข้างลงตัว ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนที่อยู่อาศัยจริง เพราะรูปแบบห้องเป็นแบบครัวปิดทุกขนาด ส่วนตัวผมชอบรูปแบบห้อง 1 Bed 29 ตร.ม. และ Duo Space เพราะรูปแบบห้องฟังก์ชันครบ, พื้นที่กว้าง และแบ่งกั้นสัดส่วนได้ชัดเจน อีกทั้งยังมีพื้นที่ที่เพิ่มในส่วนของฟังก์ชันอื่นๆ อย่าง ชั้นวางรองเท้าและโต๊ะทำงานได้อีกด้วย

5.การลงทุน : สำหรับโครงการนี้ผมมองว่า เหมาะกับคนที่ซื้ออยู่เองจะคุ้มครับ เพราะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง อย่างพนักงานเงินเดือนที่ต้องเดินทางเข้าเมือง เพื่อไปทำงานโดยต้องอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และราคาไม่แพงแต่เป็นที่พักอาศัยที่ดูมี Class มีระดับ สเปกของในโครงการก็ดีคุ้มค่ากับราคา

พิเศษ! 15-16 ธ.ค นี้ ”  “BIG YEAR BIG BONUS” 

*** แจก Bonus 10 เดือน !!! ***
** ฟรี ค่าส่วนกลาง 10 ปี **
แถมฟรี!! ค่าใช้จ่ายวันโอน
*ค่าโอนกรรมสิทธิ์
*กองทุนอาคารชุด
*มิเตอร์น้ำ
*มิเตอร์ไฟ

📌หากใครสนใจโครงการ สามารถลงทะเบียน  ได้ที่ >>https://bit.ly/2AdiXr5 

สอบถามเพิ่มหรือนัดเยี่ยมชมโครงการ โทร. 061-401-9000

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *