สืบก่อนโอน ไลฟ์ ปิ่นเกล้า

ไลฟ์ ปิ่นเกล้า
Life Pinklao

        …จากที่ผมได้เคยพูดถึงโซน “ปิ่นเกล้า” ที่ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ และคอนโดที่ใกล้แยกปิ่นเกล้าที่น่าจับตามองมากขึ้น เพราะเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานราชการสำคัญ ได้สะดวกและมีความคึกคักพอสมควร เนื่องจากเป็นย่านชุมชนที่มีความเก่าแก่ และคนส่วนใหญ่ที่อยู่ทำเลนี้ไม่ค่อยย้ายออกจากพื้นที่เท่าไหร่ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ Developer เพราะ Demand ของทำเลนี้มีค่อนข้างเยอะ วันนี้ผมจึงพาแวะมาสำรวจคอนโดพร้อมอยู่ที่น่าสนใจในย่านนี้ อย่าง “Life ปิ่นเกล้า” กันครับว่าโครงการนี้มีจุดเด่นด้านใดบ้างและสิ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้มีอะไรกันบ้าง?

“ปิ่นเกล้า”ทำเลเสน่ห์ใหม่ ย่านชุมชนที่คุ้นเคย

        ถ้าพูดถึงโซน “ปิ่นเกล้า” ที่ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ ผมว่าคอนโดที่ใกล้แยกปิ่นเกล้าน่าจับตา โดยเฉพาะคอนโดใกล้สถานีบางยี่ขัน เพราะเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ห้างสรรพสินค้า ได้สะดวกและมีความคึกคักพอสมควร เพราะทำเลนี้ต้องบอกว่าเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ มีตำนาน คนที่อาศัยอยู่ทำเลนี้มีความคุ้นเคยทำเลเป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีความเจริญและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็ยิ่งทำให้ทำเลนี้มีเสน่ห์ที่น่าค้นหาค่อนข้างมากครับ และโครงการนึงที่น่าสนใจบนทำเลนี้ผมมองว่าเป็นคอนโดพร้อมอยู่ ในราคาที่จับต้อง อย่างโครงการ “Life ปิ่นเกล้า” ครับ เรามาดูกันครับว่าโครงการนี้มีทำเลที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง?

จุดเด่นทำเล?

◼️ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขัน 26 เมตร

◼️ เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก

◼️ ใกล้ทางด่วนพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ทางด่วนถึง 3 ด่าน

◼️ ใกล้ห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, Tesco Lotus, Top, Foodland,  Makro และเดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า

◼️ ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่

◼️ ใกล้แหล่งศึกษาและโรงพยาบาล อย่าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลศิริราช

       เห็นไหมครับว่า ทำเลนี้และโครงการ Life ปิ่นเกล้า น่าสนใจแค่ไหน เรามาดูกันต่อเลยครับ ว่านอกจากทำเลที่เป็นจุดเด่นด้วยใกล้รถไฟฟ้าเหมือนอยู่ตรงหน้าบ้านแล้ว โครงการนี้ยังมีความน่าสนใจอะไรอีกบ้าง?

คอนโดแนวคิดใหม่ “Modern Japanese”

       คอนโด “Life ปิ่นเกล้า” คอนโดแนวคิดใหม่ที่ผมต้องบอกเลยว่า เป็นคอนโดที่น่าสนใจเพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง เพราะดีไซน์ของโครงการนี้ จะเน้นให้ความสำคัญเรื่องของการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด “Modern Japanese” ที่ถูกนำมาใช้ทั้งภายนอกและภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการนำวัสดุไม้ หรือโทนสีลายไม้มาตกแต่ง เพื่อให้เข้าธีมญี่ปุ่น ทำให้ให้รู้สึกความเป็นส่วนตัวและได้พักผ่อนจากการทำงานอย่างแท้จริงครับ

“Life Pinklao” คอนโดพรีเมี่ยม ใกล้รถไฟฟ้า พร้อมอยู่

รูปแบบของ “Life ปิ่นเกล้า” จะเป็นคอนโดพรีเมี่ยม High-Rise สูง 23 ชั้น 1 อาคาร 803 และยูนิต 2 ร้านค้า อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วครับว่าโครงการนี้ทำเลดีมาก เพราะมีรถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขันมาอยู่หน้าโครงการเลยครับ เดินจากโครงการไปรถไฟฟ้าประมาณ 26 เมตรครับ ผมเลยมองว่าโครงการนี้ทำเลเป็นจุดแข็งและเป็นทำเลอนาคต นอกจากนั้นโครงการนี้ยังพร้อมให้เข้าอยู่แล้วด้วยครับ เรามาดูส่วนกลางของที่นี่กันต่อเลยครับว่าน่าใช้บริการแค่ไหนครับ

ส่วนกลางตอบโจทย์ สไตล์ญี่ปุ่น    

      ส่วนกลางของที่นี่ ผมต้องยอมรับเลยครับว่าตอบโจทย์และมีสไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะเป็นสไตล์แบบญี่ปุ่น เน้นความร่มรื่น ตามแนวคิด “Mura” A Village within Nature ที่ใกล้ชิดต้นไม้กับสายน้ำ สระว่ายน้ำยาว 40 เมตร

ส่วนรายละเอียดส่วนกลางแต่ละชั้นเป็นดังนี้ครับ

  • ชั้น Ground : โถงต้อนรับ, สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด และ “ร้านค้า”
  • ชั้น 1-4 : ที่จอดรถ
  • ชั้น 5 : ที่พักอาศัย, สระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส, Casual Space, Steam, Sauna
  • ชั้น 3-23 : พักอาศัย

เรามาดูส่วนกลางไปทีละชั้นกันเลยครับ

ชั้น Ground

       เริ่มตั้งแต่พื้นที่ส่วนกลาง ที่มีพื้นที่รวมกันเกือบ 2 ไร่ จากที่ดินโครงการประมาณ 4.3 ไร่  เรียกได้ว่าใหญ่พอตัวเลยทีเดียวครับ สวนด้านหน้า ออกแบบมาช่วยบดบังทัศนยภาพรอบข้างที่เป็นตึกและบ้านพักอาศัยได้ดีครับ เข้ามาแล้วรู้สึกได้ถึงความเขียวเชียว มาต่อที่ Lobby ที่ให้อารามณ์โรงแรมญี่ปุ่น 5 ดาวเลยครับ

ชั้น 5

มาต่อกันที่ชั้น 5 ครับ ส่วนกลางชั้นนี้จะมีส่วนกลาง ดังนี้ครับ

Panoramic Fitness

อุปกรณ์ออกกำลังกายมาครบมาก ยี่ห้อและความทันสมัยไม่ต้องบอกครับเรียกว่าจัดเต็ม

Infinity Edge Pool

       สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ยาว 40 เมตร ด้านข้างเป็น Pavilion ให้นั่งพักผ่อนได้ครับ รวมถึงมีห้อง Stream และ Sauna ในบรรยากาศสวนญี่ปุ่น

       ถัดมาจะเจอพื้นที่ส่วนกลาง ที่เป็นสไตล์ Lounge หรือบางแห่งก็เรียก Co-Working Space ของที่นี่กว้างขวาง มีที่นั่งหลายมุมเลย โดยเฉพาะโต๊ะยาวที่นั่งได้ถึง 10 ที่นั่ง (ส่วนตัวผมชอบนั่งโต๊ะหรือเคาน์เตอร์บาร์ยาวๆ แบบนี้) เห็นโครงการเขาเรียกว่า “Casual Japanese Space ” และสุดท้ายจะเป็นห้องที่สามารถเห็นวิวสะพานพระราม 8 ข้ามโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา และ City Sky Line วิวที่สวยสุดของกรุงเทพฯ ก็ว่าได้ครับ

       และนอกจากส่วนกลางข้างต้นแล้ว AP ยังถือว่าเป็นผู้พัฒนาโครงการด้วยการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้กับโครงการ “Life ปิ่นเกล้า” ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง นำมาตอบรับคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ผ่านแนวคิด Innovation for Quality Living เท่าที่ผมรู้สึกว่าน่าสนใจจะมี ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะ Smart POD และ Car Charging Area จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ไว้บริการลูกบ้าน รวมถึงเครื่องช็อตไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ AED ไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีกด้วย ซึ่งผมว่านวัตกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับลูกบ้านครับ

รูปแบบห้องฟังก์ชันลงตัว กลิ่นอายอารยธรรมญี่ปุ่น

ต่อมา เรามาดูห้องพักของโครงการนี้กันบ้างครับ โดยโครงการนี้ มีห้องตัวอย่างให้ดู รูปแบบหลักๆ 3 รูปแบบ

1 Bedroom 26 – 30 ตร.ม.

1 Bedroom Plus 35 ตร.ม.

2 Bedroom 50 – 60.5 ตร.ม.

เราจะพามาดูห้องแบบ 1 Bed กันก่อนครับ

1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ฟังก์ชันครบ อยู่ได้จริงไม่อึดอัด

      ห้องนี้แบ่งสัดส่วนตามมาตรฐานของ 1 Bed แบบที่อื่นนะ Layout ไม่ได้แปลกตามากมาย แต่ได้ความโปร่งมาก เป็นห้องที่ใครๆ ก็อยู่ได้ เพราะไม่เล็กเกินไป และฟังก์ชันการใช้งานครบ ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัว พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนต กับเพดานสูง 2.55 เมตร ดูโปร่งโล่งพอสมควรครับ

      ห้องแบบ 1 Bed ที่นี่แบ่งโซนนั่งเล่นค่อนข้างหน้ากว้าง วางโซฟาและโต๊ะเล็กพร้อมโคมไฟข้างๆได้ ส่วนพื้นที่ตรงกลาง ยังวางพรมผืนใหญ่กับโต๊ะกลางได้ แบบเดินแล้วไม่เกะกะ ด้านข้างมีการแบ่งโซนครัวและโต๊ะทานข้าวให้แล้ว

      ห้องนอนขนาดมาตรฐาน วางเตียง 5 ฟุต และโต๊ะหัวเตียงได้ จะ Built ตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆ ก็ได้ ห้องครัวเขาแถมชุดเคาน์เตอร์ครัวสีไม้อ่อนๆมาให้เลย แบบนี้ตกแต่งให้สวยง่ายนะ แนะนำแต่งโทนครีมๆ คลีนๆ จะน่าอยู่ดูสบายตาทั้งห้อง

        ซึ่งดูจาก Layout ผมว่าห้องนี้สามารถใช้ชีวิตได้จริง อยู่อาศัยได้อย่างไม่อึดอัด เพราะในส่วนของ Living มีพื้นที่กว้างขวางมากพอที่จะวางโซฟา และโต๊ะกลางได้อย่างพอดี อีกทั้งครัวเป็นแบบระบบปิด มีฉากกั้นบานเลื่อนแยกพื้นที่เป็นสัดส่วน เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นรบกวนไปทั่วห้องขณะทำอาหาร และในส่วนของห้องนอน โครงการใช้เป็นประตูบานเปิดแบบทึบ ทำให้ดูเป็นพื้นที่ส่วนตัวเสมือนอาศัยอยู่บ้าน เรามาดูห้องถัดไปกันต่อครับ

1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. Layout ใหม่ ห้องกว้างเป็นสัดส่วน

 

       มาที่ห้องที่ 2 กับ Type ที่ผมว่าคนซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเองในยุคนี้ต้องการสุด เพราะหลายๆ ที่ขายดีสุด คือ 1 Bedroom Plus เพราะขนาดใหญ่และมีพื้นที่ห้องเหลือสำหรับจะตกแต่งเป็นห้องนอนเล็ก ห้องทำงานหรือห้องแต่งตัวก็ได้ครับ สำหรับห้องนี้ ขนาด 35 ตร.ม.ครับ และดีไซน์การตกแต่งภายในห้อง จะออกมาในสไตล์ Minimalist โดดเด่น เพราะโชว์เอกลักษณ์วัสดุจากธรรมชาติ ที่เน้นความสวยงามเรียบหรูอีกด้วยครับ ลองมาดูกันครับว่าห้องนี้แบ่งพื้นที่แบบไหนบ้าง?

ห้อง 1 Bed Plus 35 ตร.ม. จะแบ่งเป็น

– ห้องนั่งเล่น

– ห้องครัว (สามารถปรับได้ทั้งแบบครัวเปิด และครัวปิด)

– ห้องน้ำ

– ห้องนอน

– ห้อง Walk-in Closet (หรือแต่งเป็นแบบอื่นได้ เช่น ห้องทำงาน)

      เข้ามาห้องด้านซ้ายจะเป็นมุมชั้นวางทีวี วางหรือติดทีวีขนาด 42 นิ้วกำลังพอดีเลย กับโซนครัวกว้างๆที่มีเคาน์เตอร์ครัวตัว L ให้ตามที่เห็นเลย พร้อมช่องที่เว้นไว้สำหรับไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าแล้ว โซนครัวได้กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60*60 ซม. จะมีช่องกระจกที่เจาะมองไปเห็นห้องอเนกประสงค์ด้านในด้วยนะครับ เพิ่มการรับแสงและความโปร่งได้ระดับนึงเลย ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น กั้นด้วยกระจกบานเลื่อน ห้องนอนดูกว้างมาก เมื่อเลื่อนกระจกเปิดไว้

       ห้องอเนกประสงค์ จะทำเป็นห้องนอนเล็กก็ได้ แต่ห้องตัวอย่างเอาใจคุณสาวๆ ที่ Prop เยอะ ชุดเยอะ โดยการ Built เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง กับห้องแต่งตัว ห้องน้ำกว้าง ปูผนังด้วยกระเบื้อง และสุขภัณฑ์ครบ กั้นส่วนเปียกและแห้งให้แล้ว

และหากใครสนใจจองห้องรูปแบบนี้ ทางโครงการมี Promotion บานเลื่อนกระจกเต็มบาน กั้นส่วนครัวให้ครับ

2 Bedroom 57.50 ตร.ม. ตอบโจทย์คนใช้ชีวิตแบบครอบครัว

      มาที่ห้องสุดท้าย ขนาดใหญ่ที่สุด คือ 2 Bedroom ที่เข้ามาแล้วประทับใจครับ เพราะตกแต่งได้สวย แบบเห็นภาพเลยว่า ถ้ามีห้อง 2 Bed … ต้องมีเงินตกแต่งด้วย ชอบไอเดียโต๊ะทานข้าวแบบนี้มาก คือ โต๊ะแนวยาวแบบนี้ จะนั่งทานข้าว หรือไว้นั่งทำงานก็ได้ และตัวห้องก็แบ่งพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆเลย

 

     มาดูห้องนอนแรกกันดีกว่า ห้องนี้วางเตียง 5 ฟุต และเคาน์เตอร์อเนกประสงค์ ที่จะใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ เพราะออกแบบผนังเป็นกระจกเงา หรือจะนั่งทำงานก็ได้ด้วย ส่วนเสื้อผ้าก็ใช้เป็นราวแขวน ห้องนี้เหมาะกับวัยรุ่นมาก

      อีกห้องออกแบบเอาใจผู้ใหญ่ ดูหรูหราหน่อย และกั้นห้องแต่งตัวแยกจากห้องนอนครับ ห้องน้ำกว้างขวาง สิ่งที่ได้เหมือนกับห้องอื่นๆเลยครับ

เรามาดูกันต่อครับว่า แล้วโครงการนี้เหมาะกับใครบ้างกันครับ?

คอนโดนี้เหมาะกับใคร ซื้ออยู่เองหรือลงทุน?

ถ้าถามผมว่าโครงการนี้เหมาะกับใคร? ผมมองว่าเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เริ่มคิดขยายครอบครัว หรืออยากแยกตัวออกจากบ้านครอบครัวเดิม รวมถึงคนที่ทำงานในบริเวณใกล้เคียง ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มคนที่ติดถิ่น อยากมีที่พักใหม่ไม่ไกลจากบ้านพ่อแม่ บ้านญาติผู้ใหญ่ ที่อยู่ในย่านนี้ วันหยุดสามารถกลับไปเยี่ยม กลับไปหาได้เสมอ และกลุ่มพ่อแม่ที่อยากจะซื้อให้ลูกหลานที่เข้ามาศึกษาต่อในสถาบันชั้นนำ อย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีที่อยู่อาศัยบนสังคมคุณภาพ ที่เป็นส่วนตัว เงียบสงบ สะดวกสบาย และมีความพรีเมียมที่สุดในย่านนี้อย่างโครงการ “Life ปิ่นเกล้า” ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุดครับ

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1.ทำเล : ดีมีศักยภาพบนย่านปิ่นเกล้า เพราะใกล้ถนนหลัก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขัน และใกล้แยกปิ่นเกล้า เรียกได้ว่าทำเลการคมนาคมครบทั้งรถ-เรือ-รางเลยครับ รวมไปถึงใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันเลยครับ

2.ราคา : เริ่ม 2.75 ล้าน* ขนาด 30 ตร.ม. (91,666 บาท/ตร.ม.) ผมมองว่าถ้าราคาไม่ถึง 100,000 บาท/ตร.ม. ในย่านนี้ ถือว่าซื้อแล้วคุ้มมากครับ โดยเฉพาะโครงการที่ติดรถไฟฟ้า 26 เมตรแบบโครงการนี้ด้วย ผมว่ายังไงก็คุ้มค่าแก่การลงทุนและซื้ออยู่เองแน่นอนครับ

3.ส่วนกลาง  : จัดมาเต็มและครบ เน้นความกว้างของสระน้ำและฟิตเนสได้ดี รวมถึงห้อง Co-Working Space ก็ดูกว้าง (แต่ผมว่ามืดไปนิด ต้องเปิดม่านเยอะๆ หน่อย) สวนสีเขียวด้านหน้าก็โอเค ร่มรื่นประมาณนึงเลยครับ

4.รูปแบบห้องและสเปก  : โดยรวมผมว่าโอเคครับ ทั้งรูปแบบดีไซน์การแต่งห้อง สเปกและเพดานสูง 2.55 เมตร ห้องที่ผมชอบจะเป็นห้อง 1 Bed Plus เพราะผมมองว่าห้องนี้สัดส่วนดูกว้างและปรับใช้งาน Function ในพื้นที่ได้ตามความต้องการของเราเลยครับ

5.การลงทุน : เป็นทำเลที่น่าลงทุนปล่อยเช่า เพราะมีสถาบันการศึกษาชั้นนำ อย่าง ม.ธรรมศาสตร์ และม.ศิลปากร โรงพยาบาลชั้นนำอย่าง โรงพยาบาลศิริราช และยังมีแบงก์ชาติที่ได้ทำการรีโนเวท จนกลายเป็น Third Place ของคนย่านนี้ ทำให้ดีมานด์ในย่านนี้มีค่อนข้างเยอะ เป็นที่น่าจับตาในเรื่องของการลงทุนเป็นอย่างมากครับ เพราะลูกค้าหลักของคอนโดในย่านนี้ ผมบอกเลยครับว่าเป็น คุณหมอ พยาบาล นักศึกษาแพทย์ นักศึกษาธรรมศาสตร์ ศิลปากร และพนักงานแบงก์ชาตินี่แหละครับ จะเห็นได้จากราคาขายของคอนโดในย่านนี้ก็มีเพิ่มขึ้น 3-5% ต่อปี และ Yield การเช่าอยู่ประมาณ 5-6% ซึ่งถือว่าไม่น้อยนะครับ จึงน่าลงทุนปล่อยเช่า หรืออยู่อาศัยเองก็คุ้มครับ

และตอนนี้โครงการมีโปรโมชั่นพิเศษครับ
◼️ โปรเขย่าราคาวันที่ 1-9 มิ.ย.62 นี้
◼️ ผ่อน 0% สูงสุด 1 ปี*
◼️ โปรสุดพิเศษมูลค่าสูงสุด 6 แสน*
◼️ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย
◼️ ราคาพิเศษ
1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. เริ่มต้น 2.75 ล้าน*
1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. เริ่มต้น 2.95 ล้าน*

หากใครสนใจโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ที่ >> https://bit.ly/2V9T3Sh

 

โพสต์ไว้ที่: Review

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *