สืบก่อนจอง Mazarine รัชโยธิน

แมสซารีน รัชโยธิน
Mazarine Ratchayothin

หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วด้วยคอนเซปต์ Simply Makes Sense มาปีนี้ Grand Unity ได้ผุดโครงการใหม่ที่มาพร้อมคอนเซปต์ใหม่อย่าง For Your Extraordinary Reasons ด้วยการชูจุดเด่นในเรื่องของทำเล การออกแบบ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ให้ความสำคัญกับการมอบอุปกรณ์มาตรฐานที่มีคุณภาพให้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง Safety Glass ทั้งโครงการเพื่อมอบความปลอดภัยให้ผู้อยู่อาศัย และการติดตั้ง WC Pod หรือห้องน้ำสำเร็จรูปเพื่อการดูแลและซ่อมแซมง่าย ตลอดจนการให้พื้นที่สีเขียวในทุกๆ โครงการเพื่อการใช้ชีวิตในเมืองร่วมกับธรรมชาติได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด

และโครงการใหม่ที่น่าจับตามองด้วยศักยภาพทั้ง 3 อย่าง คือทำเล การออกแบบ และส่วนกลางที่จัดเต็มก็คือโครงการ “Mazarine รัชโยธิน” คอนโด High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 474 ยูนิต ร้านค้าอีก 2 ยูนิต โดยตัวโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธิน และยังอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Major รัชโยธิน ถือเป็นทำเลที่แวดล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย และมาพร้อมส่วนกลางที่จัดเต็มไม่ต่างจากฟังก์ชันห้องที่สเปกพรีเมียมมากขึ้น 

ก่อนอื่นผมอยากพาไปดูความน่าสนใจของทำเลรัชโยธินกันก่อนครับ ไปดูกันครับว่าที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง

“At The Heart of Ratchayothin” ทำเลที่ตั้งที่ดีที่สุดใจกลางรัชโยธิน ติด BTS รัชโยธิน 0 เมตร

ทำเลที่ไม่ใช่ CBD ของกรุงเทพแต่กลับได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงนี้ก็คือ “รัชโยธิน” เพราะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายพาดผ่าน ผมต้องเท้าความให้ทุกคนได้เห็นภาพกันสักนิดว่าทำเลรัชโยธินนั้น แต่เดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัยแนวราบเสียส่วนใหญ่ ที่นี่ถือว่าเป็นย่านที่มีแหล่งสาธารณูปโภคหนาแน่นอยู่พอสมควร และเมื่อแถวนี้เริ่มมีการพัฒนาที่ดิน ทำให้อาคารสำนักงานต่างๆ เพิ่มมากขึ้น รวมถึงโครงการอสังหาฯ ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่เป็นที่ฮือฮาที่สุดของคนในย่านนี้ก็คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าที่เข้ามายกระดับคุณภาพการเดินทางและยังเชื่อมโยงการเดินทางของย่านนี้ให้มีศักยภาพยิ่งขึ้น

หากถามผมว่าทำไมรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้ถึงน่าสนใจ? นั่นก็เพราะโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีเส้นการเดินทางที่พาดผ่านแลนด์มาร์กสำคัญมากมาย อย่าง Central ลาดพร้าว ไปถึงใจกลางเมืองอย่างสยาม อโศก ทองหล่อ และยังเริ่มเปิดให้บริการในปีนี้ และคาดว่าจะเปิดให้บริการทั้งหมดในปี 2563 นั่นเองครับ

นอกจากรถไฟฟ้าที่เข้ามาทำให้ย่านนี้คึกคักและเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้นแล้ว การเดินทางด้วยรถยนต์ก็ในย่านนี้ก็ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นเช่นกันครับ เพราะตัวโครงการ Mazarine รัชโยธิน เองตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธินเลย และยังใกล้แยกที่เป็นถนนสายสำคัญอย่าง ถนนพหลโยธินกับถนนรัชดาภิเษก โดยถนนพหลโยธินนั้นสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังหลักสี่ สะพานใหม่ หรือย่านอารีย์ ส่วนถนนรัชดาภิเษกนั้นก็สามารถวิ่งผ่านไปยังประชาชื่น หรือย่านพระราม 9 ก็ได้เช่นกันครับ โดยตัวโครงการเองก็อยู่ใกล้ทางด่วนถึง 3 สาย เข้า – ออก เมืองสะดวก เรามาดูสรุปจุดเด่นของทำเลโครงการนี้กันครับ 

จุดเด่นทำเล 

◼️ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สถานี รัชโยธิน และ สถานีเสนานิคม)
◼️ ใกล้ทางด่วน 3 สาย ได้แก่ ทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์), ทางพิเศษศรีรัช และ ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนตะวันตก
◼️ ใกล้ถนนสายหลักอย่าง ถนนพหลโยธิน, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนลาดพร้าว, ถนนวิภาวดีรังสิต และ ถนนเกษตร – นวมินทร์
◼️ ใกล้ Community Mall อย่าง Major รัชโยธิน, The Avenue, Central ลาดพร้าว, Union Mall, สวนจัตุจักร
◼️ ใกล้สถานศึกษาชั้นนำหลายแห่ง เช่น ม. เกษตรศาสตร์, ม. ราษภัฎจันทรเกษม และโรงเรียนหอวัง
◼️ ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลเปาโล และโรงพยายบาลวิภาวดี

“Mazarine รัชโยธิน” คอนโดเกรดพรีเมียมจาก Grand Unity โดดเด่นด้วยคอนเซปต์ “For Your Extraordinary Reasons”

โครงการนี้ออกแบบโดยการใช้แนวความคิด “For Your Extraordinary Reasons” ถือเป็นคอนโดเกรดพรีเมียมจาก Grand Unity ที่คิดมาเพื่อให้ลูกบ้านได้พบกับประสบการณ์การใช้ชีวิต โดยทาง Grand Unity ได้คัดสรรวัสดุเกรดพรีเมียม และมีการเน้นรูปลักษณ์ที่สวยทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันห้องหรือแม้แต่พื้นที่ส่วนกลาง และโครงการยังได้ชูจุดขาย 3 ปัจจัย ดังนี้ครับ

Extraordinary Location : ทำเลติดรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่จะเข้ามาทำให้ย่านนี้มีความเจริญมากขึ้น มีการขยายตัวในเชิงธุรกิจจากย่านลาดพร้าว – รัชดาภิเษกออกมาให้ย่านนี้มีโอกาสเป็น New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพตอนเหนือ

Extraordinary Design : การออกแบบที่ให้ลูกบ้านได้ใช้ของที่ดี ไม่ว่าจะเป็น กระจกทุกบานในห้องและในพื้นที่ส่วนกลางจะเป็น Safety Glass หรือกระจกนิรภัย ที่แตกแล้วก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งาน, Private Balcony ออกแบบระเบียงให้เหมาะกับการใช้งานจริง มีระแนงกั้นทำให้บังสายตาจากด้านนอก, WC Pod ห้องน้ำสำเร็จรูปจากโรงงานที่ง่ายต่อการดูแลและซ่อมแซม, ออกแบบให้ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร และได้กระจกเต็มบานมองเห็นวิวได้มากขึ้น, Walk-in Closet ขนาดใหญ่ และมี Kitchen Island (ตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom Corner เป็นต้นไป) สำหรับคนที่ชอบทำอาหารเอง 

Extraordinary Facility : พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และโดดเด่นด้วย Triple Floor Sky Facilities พื้นที่ 3 ชั้นบนสุดของโครงการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ Shade And Shine Sky Pool สระว่ายน้ำรูปตัว U ที่มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง มี Sky Fitness, Sky Lounge ที่มองวิวได้รอบด้าน มี Party Room, Exclusive Foyer & Bar สำหรับคนที่ชอบปาร์ตี้ และมีที่จอดรถทั้งหมด 70% เป็นระบบ Auto Parking 273 คัน ที่ชั้น 2 – 7 สำหรับคนที่ไม่ชอบวนหาที่จอดรถก็สามารถเข้ามาจอดที่ช่องจอดด้านหลังอาคารแล้วขึ้นห้องพักได้เลย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สีเขียวโดยรอบโครงการให้ความร่มรื่นมากขึ้นด้วยครับ 

เราทราบแนวความคิดในการออกแบบโครงการนี้กันแล้วเราไปดูกันว่าด้านในจะเป็นยังไง

ส่วนกลางโดดเด่นด้วย Triple Floor Sky Facilities 

ส่วนกลางของที่นี่เห็นว่าจัดเต็ม เพราะมีทั้งชั้น G ชั้น 8 ชั้น 22  และที่เป็นจุดเด่นของโครงการเลยก็คือชั้น 36, 37 และชั้น Rooftop ครับ เราลองไปดูกันครับว่าส่วนกลางของที่นี่ให้อะไรมาบ้าง

Lobby : เริ่มกันที่ Lobby ของโครงการที่ตกแต่งด้วยหินอ่อน ให้เรื่องของความหรูหรา และยังดูโอ่โถงด้วยการดีไซน์แบบ Double Volume พร้อมตกแต่งด้วย Modren Chandelier สวยงามมากจริงๆ ครับ ซึ่งพื้นที่สามารถใช้สำหรับนั่งรถรอรับ – ส่ง หรือรอรถจาก Auto Parking ได้ครับ

และในส่วนของพื้นที่ชั้น 8 นั้นจะเป็นชั้นห้องพักอาศัย ซึ่งส่วนกลางในชั้นนี้จะมี Private Garden ให้ลูกบ้านสามารถออกมาพักผ่อนได้ และยังมีในส่วนของ Co-Working Space สำหรับนั่งทำงาน พร้อมกับ Meeting Room ที่เป็นพื้นที่ประชุมด้วยครับ ส่วนชั้น 22 นั้นจะเป็น Mini Relax Garden ครับ

Triple Floor Sky Facilities : มาต่อกันที่ชั้น 36, 37 และชั้น Rooftop ที่เป็นอีกจุดเด่นของโครงการกันครับ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางทั้ง 3 ชั้นนี้จัดเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งทุกๆ ชั้นยังสามารถเทควิวเมืองกรุงเทพแบบ Panoramic View อีกด้วยครับ เราไปดูกันครับว่า Triple Floor Sky Facilities นั้นจะมีอะไรบ้าง

Shade & Shine Sky Pool : ตัวสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 36 ครับ เป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาด 13.10 x 18 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมกับแยกสระเด็กและผู้ใหญ่ออกจากกัน ซึ่งดีไซน์ของสระว่ายน้ำจะเป็นรูปตัว U ที่มีทั้งในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้ตัวสระว่ายน้ำยังสามารถเทควิวเมืองในทำเลรัชโยธินแบบพาโนรามิคได้อีกด้วยครับ นอกจากนี้ชั้น 36 นี้ยังมีในส่วนของ Steam and Sauna Room ด้วยครับ

Sky Fitness : ขึ้นมาที่ชั้น 37 จะเป็นส่วนของ Fitness ขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลายประเภทที่ทันสมัยรองรับการใช้งานอย่างเพียงพอ ภายในมีพื้นที่ประมาณ 85 ตร.ม. และตัวกระจกทรงสูงที่ล้อมรอบนั้นทำให้ลูกบ้านสามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับการเทควิวเมืองได้ด้วยครับ

Private Salon : ห้องนี้น่าจะถูกใจสาวๆ มากครับ เพราะทางโครงการได้มีพื้นที่ของห้องแต่งหน้าทำผมสำหรับใครที่ต้องออกงาน และต้องจ้างช่างแต่งหน้ามา ก็สามารถใช้พื้นที่นี้ได้โดยไม่ต้องขึ้นไปที่ห้องพักของตัวเองครับ

Party Room : และในส่วนของห้องนี้จะเป็นพื้นที่ไว้ให้ลูกบ้านที่ชอบปาร์ตี้ไว้สังสรรค์กับเพื่อนๆ ครับ รอบห้องจะเป็นกระจกทรงสูงแบบเทควิวเมืองได้เช่นกัน และมีมุมนั่งแต่ละมุมรองรับหลายที่เลยครับ

Exclusive Foyer & Bar : นอกจากมุมปาร์ตี้แล้ว ทางโครงการก็ยังมีบาร์เล็กๆ สำหรับคนชอบดื่มอีกด้วยครับ ซึ่งมุมนี้จะใช้เป็นพื้นที่ดื่มหรือรับประทานอาหารก็ได้ วิวดีด้วยครับ

Sky Lounge : มุมนี้เป็นอีกมุมพักผ่อนที่น่าจะโดนใจหลายคนเลยครับ ภายในตกแต่งให้เป็นฝ้าเพดานสูง เป็นพื้นที่สำหรับนั่งชมวิวได้แบบรอบด้าน 

นอกจากที่ผมนำภาพตัวอย่างมาให้เห็นกันแล้ว ส่วนของชั้น 37 ก็ยังมี Private Gym Class และ Kids Room ด้วยครับ และในส่วนของชั้นดาดฟ้านั้นก็มี Exclusive Sky Deck และ Sky Garden ครับ คราวนี้เราลองไปดูห้องตัวอย่างของโครงการกันบ้างครับว่ามีฟังก์ชันอะไรน่าสนใจบ้าง

รูปแบบห้องฟังก์ชันลงตัว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

รูปแบบห้องมีค่อนข้างหลากหลายฟังก์ชันเลยครับ โดยสิ่งที่โดดเด่นของรูปห้องโครงการนี้ก็คือเพดานทุกห้องสูง 3 เมตร (ห้องครัวสูง 2.6 เมตร และห้องน้ำสูง 2.4 เมตร) ซึ่งรูปแบบห้องมีดังนี้ครับ

◼️ Studio ขนาด 24.00 – 25.50 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Type A ขนาด 32.50 – 33.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Type B ขนาด 32.50 – 33.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Corner Type A ขนาด 39.50 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Corner Type B ขนาด ขนาด 43.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Flexi ขนาด 41.50 – 43.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Plus Corner Type A ขนาด 39.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Plus Corner Type B ขนาด 48.00 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom Corner ขนาด 48.00 ตร.ม.

สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการนั้นจะมีด้วยกัน 3 ห้องก็คือ

◼️ Studio ขนาด 24.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Type A ขนาด 32.50 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Flexi Type A ขนาด 41.50 ตร.ม. 

เรามาดูบรรยากาศภายในห้องตัวอย่างกันบ้างครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง โดยผมของเริ่มจากห้อง Studio ก่อนเลยนะครับ…

Studio ขนาด 24.00 ตร.ม.
ฟังก์ชันครัวปิดขนาดใหญ่

สำหรับส่วนแรกที่เราจะเจอเมื่อเปิดประตูเข้ามาก็คือฟังก์ชันครัวปิดที่ตรงข้ามกันจะเป็นห้องน้ำครับ ทางเข้าประตูนั้นทางโครงการ Built-in ตู้เก็บรองเท้ายทรงสูงมาให้เรียบร้อยครับ ซึ่งผมขอพูดถึงส่วนของครัวก่อนนะครับ พื้นที่ที่โครงการให้มาค่อนข้างเยอะเลยครับ ห้อง Studio ส่วนใหญ่เรามักจะเจอกับครัวเล็กกระทัดรัดเสียส่วนใหญ่ ซึ่งโครงการนี้ผมถือว่าพื้นที่ที่ได้นั้นกว้างเลยทีเดียว และยังมีประตูบานเลื่อนแบบ 3 พับกั้นระหว่างห้องครัวกับห้องนอนที่จะเชื่อมกับส่วนของห้องนั่งเล่นไว้ด้วยครับ ซึ่งกระจกทุกส่วนของโครงการจะได้เป็นกระจก Safety ครับ และห้องครัวนั้นจะได้เหมือนห้องตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชั้นเก็บของบน – ล่าง และยังมีช่องสำหรับวางตู้เย็นไว้ให้และไมโครเวฟไว้ให้ด้วยครับ

ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะมีช่องระบายอากาศด้านบนมาให้ด้วยครับ และยังได้บานกระจกแบบเต็มบานอีกด้วย พื้นที่ภายในแบ่งสัดส่วนด้วยการแยกโซนแห้งและเปียกชัดเจน ส่วนตัวสุขภัณฑ์ก็เป็นแบรนด์มาตรฐานครับ

สำหรับพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นนั้นจะเป็นพื้นที่เดียวกันครับ สามารถวางเตียง King Size ได้ และยังมีพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้แบบสบายๆ และติดกับเตียงก็จะมีพื้นที่เหลือสำหรับวางเซตโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและโต๊ะกลางอีก 1 ตัวได้เลยครับ และห้องนี้มีระเบียงเล็กๆ ให้มาด้วยนะครับ สามารถเดินออกไปเทควิวหรือรับอากาศสดชื่นนอกห้องได้เลยครับ

1 Bedroom Type A ขนาด 32.50 ตร.ม.
Living ขนาดใหญ่ เพิ่ม Walk-in Closet

สำหรับห้องนี้จะเป็นฟังก์ชันครัวปิดเหมือนกับห้อง Studio ซึ่งโครงการตกแต่งครัวแบบ I – Shape Kitchen มาให้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ภายในห้องครัวได้เยอะ และยัง Built-in เฟอร์นิเจอร์มาให้ตามห้องตัวอย่าง ถัดไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นที่มีกระจกใสบานเลื่อนกั้นไว้ระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นครับ ซึ่งพื้นที่ในส่วนของห้องนั่งเล่นนั้นจะมีมุมรับประทานอาหารแบบส่วนตัว 2 ที่นั่ง โดยมุมนั่งเล่นนั้นจะอยู่ติดกับกระจกทรงสูงที่สามารถเปิดรับแสงภายนอกเข้ามาในห้องได้ ทั้งช่วยให้ห้องดูโปร่งสบายและช่วยประหยัดไฟในช่วงกลางวันอีกด้วยครับ คราวนี้ไปดูส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ…

สำหรับพื้นที่ของห้องนอนนั้น การตกแต่งภายในค่อนข้างหรูเลยครับ สามารถวางเตียงได้ 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอนครับ และบริเวณหน้าห้องน้ำยังมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet มาให้ด้วย ภายในห้องนอนจะมีระเบียงส่วนตัวที่มีระแนงกั้นแบบส่วนตัวมาให้ด้วยครับ

1 Bedroom Type A Flexi ขนาด 41.50 ตร.ม.
ห้องใหญ่ โดดเด่นด้วย Double Living

สำหรับห้องนี้ผมว่ามีการจัดฟังก์ชันห้องได้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวครับ อย่างคำว่า Flexi ก็คือ Flexible ซึ่งห้อง Type นี้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ค่อนข้างเยอะ สามารถรองรับคนได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ ซึ่งเริ่มจากส่วนแรกที่เราเปิดประตูมาแล้วจะเจอก็คือฟังก์ชันครับเปิดครับ ซึ่งห้องนี้ทางโครงการจัดฟังก์ชันครับเป็นแบบ U-Shape Kitchen ซึ่งการจัดครัวรูปแบบนี้ได้นั่นหมายความว่าพื้นที่ต้องกว้างด้วยครับ ทางโคงการ Built-in เฟอร์นิเจอร์มาให้เหมือนห้องตัวอย่างครับ มีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟและตู้เย็นมาให้พร้อม

และพื้นที่ห้องนั่งเล่นนั้นจะเชื่อมต่อจากห้องครัว ซึ่งพื้นที่ที่โครงการให้มากว้างมากครับ สามารถวางโซฟาขนาด 2 – 4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางขนาดใหญ่ได้โดยที่ยังมีพื้นที่ระหว่างหน้าทีวีเหลือด้วยครับ ซึ่งหากใครที่อยากจะขยายมุมรับประทานอาหารให้ใหญ่ขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

ในส่วนของห้องน้ำนั้นสามารถเข้าได้ 2 ทาง ก็คือเข้าจากส่วนของห้องครัวและห้องนอน สะดวกสำหรับคนที่มีแขกมาเยี่ยมที่ห้องที่จะได้พื้นที่ของความเป็นส่วนตัวเพราะไม่ต้องเดินเข้าห้องนอนนั่นเองครับ ซึ่งพื้นที่หน้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนนั้นจะเป็นพื้นที่ของ Walk-in Closet ด้วยครับ

ลองเข้ามาดูในส่วนของห้องนอนกันบ้างครับ ผมชอบฟังก์ชันห้องนอนของห้องตัวอย่างนี้นะครับ การจัดวางส่วนต่างๆ ค่อนข้างลงตัวกับการใช้งานจริง ซึ่งห้องนอนนั้นจะมีมุมนั่งเล่นอยู่ช่วงปลายเตียง มี Daybed วางติดกระจกทรงสูงที่สามารถเทควิวได้ ภายในห้องนอนมีระเบียงในตัวที่มีระแนงกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้อีกที สำหรับมุมนั่งเล่นภายในห้องนอนนั้นจะมีกระจกใสบานเลื่อนกั้นไว้ระหว่างห้องนั่งเล่นด้านนอกอีกที ซึ่งหากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถดึง Partition กั้นระหว่างห้องนอนกับมุมนั่งเล่นภายในห้องนอนไว้อีกทีได้ครับ ซึ่งเมื่อกั้น Partition จะกลายเป็นว่าเราได้ห้องนั่งเล่นเพิ่มมาอีก 1 ห้องเลยครับ ดังนั้นห้องนี้ไม่ต่างกับการที่เราได้ฟังก์ชัน Double Living มาเลย ตอบโจทย์คนที่ชอบพาเพื่อนมาสังสรรค์ที่ห้องมากครับ

คราวนี้เราลองไปดูกันดีกว่าครับว่าโครงการนี้จะเหมาะกับใครบ้าง…

คอนโดนี้เหมาะกับใคร?

สำหรับทำเลรัชโยธินในปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าที่นี่ยังคงเป็นศูนย์กลางเพื่อการอยู่อาศัยครับ ไม่ว่าจะเป็นบ้านทั้งแนวราบและแนวสูง และยังเป็นย่านที่รวมทุกไลฟ์สไตล์ไว้ด้วยกัน และอีกจุดเด่นของย่านนี้ก็คือเรื่องของการเดินทางที่สะดวกสบาย ด้วยการเข้ามาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ผลักให้ที่ดินทำเลนี้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากว่าใครที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลรัชโยธินแล้ว โครงการ “Mazarine รัชโยธิน” ถือว่าตอบโจทย์และคุ้มค่ามากครับ ทั้งด้วยเรื่องของสเปกห้อง ส่วนกลางที่จัดเต็ม และเรื่องของการเดินทางที่สะดวก ติดถนนใหญ่ ใกล้ทั้ง BTS และ MRT ที่พาดผ่าน รวมถึงอยู่ตรงข้าม Major รัชโยธิน ที่ในอนาคตจะมีทางเชื่อมจาก BTS หรือแม้แต่ใครที่คิดจะซื้อเพื่อลงทุน ที่นี่ก็ตอบโจทย์เช่นเดียวกันครับ ด้วย Yield 5 – 7% โดยกลุ่มที่น่าจับตามองเป็นพิเศษก็คือกลุ่มข้าราชการและพนักงานบริษัท ด้วยทำเลโครงการที่อยู่ใกล้หน่วยงานข้าราชการหลายแห่ง และย่านนี้ยังเต็มไปด้วยสำนักงานต่างๆ นั่นเองครับ

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

1. ทำเล : ส่วนตัวผมมองว่าทำเลนี้ถือว่าเป็นอีกทำเลศักยภาพที่น่าจับตามอง มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งช้อป ชิม ชิล อีกทั้งเรื่องของการเดินทางก็สะดวกเพราะใกล้ทั้ง BTS และ MRT โดยตัวโครงการจะอยู่ติดกับ BTS สถานีรัชโยธิน และทางด่วนถึง 3 สายนั่นเองครับ

2. ราคา : เริ่ม 4.5 ล้าน* ได้ห้องแบบ Fully Furnished และยังเป็นสเปกแบบพรีเมียมของแบรนด์ นอกจากนี้ส่วนกลางและห้องพักถือว่าโครงการจัดเต็มให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งได้หน้าต่างบานใหญ่กระจกสูงถึงฝ้าเพดาน นอกจากนี้กระจกทั้งหมดในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางยังเป็น Safety Glass แบบไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยอีกด้วยครับ และเมื่อมองถึงศักยภาพของทำเลด้วยแล้ว ผมว่าราคานี้ยังไงก็คุ้มครับ

3. ส่วนกลาง : ส่วนกลางจัดเต็มมากครับ อีกทั้งโครงการยังมีที่จอดรถถึง 70% และเป็นระบบ Auto Parking ด้วย ใครที่ชอบใช้ชีวิตบนพื้นที่ส่วนกลางน่าจะถูกใจโครงการนี้เพราะส่วนกลางแบบ Triple Floor Sky Facilities ของที่นี่ สามารถเทควิวเมืองกรุงเทพได้แบบ Panoramic View อีกด้วยครับ

4. รูปแบบห้องและสเปก : สำหรับการออกแบบห้องของโครงการผมมองว่าการจัดสรรฟังก์ชันต่างๆ ค่อนข้างลงตัวกับการใช้งานจริง และด้วยรูปแบบห้องที่มีหลาย Type นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่หลากหลายสไตล์มากยิ่งขึ้นด้วยครับ


5. การลงทุน : คอนโดแถว 5 แยกลาดพร้าวในปัจจุบันนี้ราคาขยับไปสูงมากครับ อีกทั้งการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสะพานข้ามแยกก็ยังช่วยแก้ปัญหารถติดได้เป็นอย่างดี ดังนั้นทำเลรัชโยธินถือว่าเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจในการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่ต่างก็จับตามองทำเลนี้เป็นพิเศษ ด้วย Yieldที่สูงถึง 5 – 7% ดังนั้นไม่ว่าใครที่สนใจโครงการเพื่ออยู่อาศัยเองหรือแม้แต่ลงทุนปล่อยเช่า ผมว่าโครงการนี้ตอบโจทย์มากครับ โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้กำหนดแล้วเสร็จปี 2563 เป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่โครงการแล้วเสร็จด้วยครับ

 

ใครสนใจลองแวะเข้าไปดูนะครับ หรือลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ >> http://bit.ly/2LyNJBR

หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ >> 02 652 4000

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *