สืบก่อนจอง “KAVE ศาลายา”

วันนี้ผมเองได้มีโอกาสแวะมาย่าน “ศาลายา” อีกครั้ง ต้องบอกว่าย่านศาลายาในวันนี้แตกต่างไปจากเมื่อประมาณ 4 – 5 ปีค่อนข้างมากเลยทีเดียว มีหลายโครงการจาก Developer แบรนด์ดังเข้ามาปักหมุดโครงการกันแบบต่อเนื่อง อย่างล่าสุดที่ปักหมุดอยู่ในบนถนนศาลายา – นครชัยศรี กับโครงการ “KAVE ศาลายา” จาก AssetWise 

ต้องบอกว่าโครงการนี้เป็นอีกโครงการที่ได้รับความสนใจตั้งแต่เปิดตัวเลยครับ ซึ่งผมเป็นอีกคนที่รอคอยโครงการนี้เช่นกัน วันนี้ทางโครงการเปิดห้องตัวอย่างให้ชมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมเลยถือโอกาสพาทุกคนไปสืบกันครับ ว่าห้องตัวอย่างของโครงการนี้มีฟังก์ชันอะไรน่าสนใจบ้าง รวมไปถึงภาพรวมของโครงการ “KAVE ศาลายา” ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวครับ ซึ่งก่อนอื่นเราเริ่มกันที่เรื่องของทำเลโครงการกันก่อนครับ

“ศาลายา”
ทำเลติดถนนใหญ่ธรรมสพน์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน

ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับครับว่าทำเล “ศาลายา” เป็นทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกที่น่าจับตามองด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างที่ผมเกริ่นไปครับว่าที่นี่มีหลายโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาปักหมุดกันมากขึ้น รวมถึงแหล่งงาน ทั้งคนทำงานมหาลัยและศูนย์การแพทย์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงรถไฟฟ้าที่ทำให้ที่นี่เป็นอีกทำเลศักยภาพไปโดยปริยาย ซึ่งทำเลที่ตั้งของโครงการ “KAVE ศาลายา” ถือว่าเป็นอีกทำเลที่น่าสนใจ สภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ รวมถึงอาคารพาณิชย์กระจายอยู่ทั่ว แต่ก็มีคอนโดฯ เข้ามาปักหมุดบนถนนเส้นนี้เช่นเดียวกัน เพราะจุดเด่นของถนนศาลายา – นครชัยศรี ก็คือเป็นย่านของมหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใกล้กับโครงการก็คือ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นั่นเองครับ 

ซึ่งการที่โครงการอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยเช่นนี้ แน่นอนครับว่ากลุ่มเป้าหมายของโครงการค่อนข้างชัดเจนพอสมควร เพราะจุดเด่นของแบรนด์ “เคฟ” (KAVE Condo) ก็คือการปักหมุดอยู่รอบมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ซึ่งไม่ใช่แค่กลุ่มของนักศึกษาเท่านั้นที่ทางโครงการเล็งไว้ว่าเป็นกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังมีกลุ่มของอาจารย์ ผู้ปกครอง รวมไปถึงกลุ่มของนักลงทุน ซึ่งทำเลของโครงการเรียกได้ว่า “ใกล้” กับมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มากที่สุด ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 2 นาทีเท่านั้นครับ และในอนาคตทางโครงการก็จะมี Shuttle Service รับส่งจากโครงการไปยังมหาวิทยาลัยที่ประตู 5 ซึ่งถือว่าสะดวกมากครับสำหรับลูกบ้านในโครงการที่เป็นกลุ่มของอาจารย์ หรือนักศึกษา 

ซึ่งตัวโครงการไม่ได้ใกล้เพียงแค่มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เท่านั้นครับ แต่ทำเลใกล้ๆ กับตัวโครงการยังมีสถานศึกษาและสถานพยาบาลอีกหลายแห่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, วิทยาลัยดุริยางคศิลป์, สำนักช่างสิบหมู่, วิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล, ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก, โรงพยาบาลธนบุรี 2

เราลองมาดูในเรื่องของการเดินทางกันบ้างครับ ผมว่าสเน่ห์ของย่านศาลายาก็คือการเป็นเขตชุมชนที่อยู่อาศัย โซนนี้จะมีที่อยู่แนวราบค่อนข้างเยอะ รวมถึงอาคารพาณิชย์ต่างๆ ปัจจุบันนี้มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นในย่านค่อนข้างเยอะ เพราะเรื่องของการเดินทางทั้งเข้าและออกเมืองนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนย่านนี้เลยครับ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ก็คือถนนศาลายา – นครชัยศรี ซึ่งเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อถนนได้อีกหลายสายไม่ว่าจะเป็นถนนศาลาธรรมสพน์, ถนนบรมราชชนนี และถนนพุทธมณฑลสาย 5 ซึ่งหลักๆ แล้วคนที่จะเดินทางเข้าตัวเมืองก็สามารถใช้ถนนบรมราชชนนี แล้วเชื่อมไปยังสะพานปิ่นเกล้าเข้าเมืองได้เลยครับ

นอกจากการเดินทางด้วยถนนเส้นหลักหรือเส้นรองต่างๆ แล้ว ในอนาคตย่านนี้ก็ยังรองรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอีกด้วยครับ เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีศาลายา ซึ่งแน่นอนครับว่าการเข้ามาของรถไฟฟ้าทำให้การเดินทางเข้า – ออกเมืองจะยิ่งสะดวกมากขึ้น และผู้คนในย่านสามารถเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งพอได้พูดถึงเรื่องของไลฟ์สไตล์แล้ว ทำเลที่ตั้งของโครงการนั้นใกล้ทั้ง The Salaya, Tesco Lotus ศาลายา, Makro ศาลายา, China Town รวมถึง Central ศาลายา 

ถือว่าเป็น “ศาลายา” เป็นอีกย่านที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของการเดินทาง รวมไปถึงแหล่งอำนวยความสะดวกที่แวดล้อมอยู่รอบโครงการ ซึ่งผมสรุปจุดเด่นของโครงการมาไว้ให้แล้ว เราลองไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง…

จุดเด่นทำเล
◼️ ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เพียง 2 นาที และสถานศึกษาชั้นนำอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, วิทยาลัยดุริยางคศิลป์, สำนักช่างสิบหมู่ และวิทยาลัยนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล
◼️ ใกล้สถานพยาบาลสำคัญ ทั้งศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก และโรงพยาบาลธนบุรี 2
◼️ เดินทางสะดวกทั้งเข้าและออกเมือง เชื่อมต่อถนนหลายสาย ทั้งถนนศาลายา-นครชัยศรี, ถนนบรมราชชนนี และถนนพุทธมณฑลสาย 5
◼️ ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Central ศาลายา, แมคโคร ศาลายา และ โลตัส ศาลายา
◼️ รองรับทำเลแห่งอนาคตด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ตัวโครงการจะอยู่ใกล้สถานีศาลายา

“KAVE ศาลายา”
คอนโดฯ ที่ใส่ใจในทุกดีไซน์ “Hybrid Modernique Design” โดดเด่นและทันสมัย

อีกแบรนด์คอนโดฯ จาก AssetWise ที่เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด กระแสตอบรับดีตั้งแต่เปิดตัวก็คือแบรนด์ “KAVE Condo” ซึ่งพอผมได้ย้อนไปดูความสำเร็จของแบรนด์ “KAVE Condo” ตั้งแต่ตัวแรกที่ตั้งอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ เปิดมากี่เฟสก็ขายดีมากจนสามารถปิดการขายได้ภายใน 2 เดือนที่เปิดตัว และยังมีโครงการ “KAVE Town Space” และ “KAVE Town Shift” ที่เข้ามาต่อยอดความสำเร็จด้วยทำเลที่ดีกว่าเดิม คืออยู่ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รังสิต ห่างกันแค่ 200 เมตรเท่านั้น แถมอัดฟังก์ชันเพื่อเอาใจนักศึกษาเข้าไปอีก ไม่แปลกครับที่กระแสตอบรับจะดีจนทำให้โครงการ Sold Out ในเวลาไม่นานเช่นกัน นอกจากนั้นทาง AssetWise ก็ปล่อยอีกโครงการใหม่ล่าสุดอย่าง “KAVE TU” ที่ปักหมุดอยู่ย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และโครงการ “KAVE ศาลายา” ที่ปักหมุดอยู่ย่านมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา 

โดยโครงการ “KAVE ศาลายา” เป็นคอนโดฯ Low Rise 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร สร้างบนพื้นที่โครงการขนาด 4-2-51.8 ไร่* จุดเด่นแรกของตัวโครงการก็คือเรื่องของดีไซน์ ซึ่งรูปแบบตัวอาคารภายนอกของโครงการมีความโดดเด่นและทันสมัย มาในสไตล์ “Hybrid Modernique Design” โดยใช้ Façade ที่มีแรงบันดาลใจจาก “Cave Geographic Design” เป็นดีไซน์ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ด้วยเส้นแนวตั้งที่ยุบยื่นและเส้นโค้งช่องระเบียง ส่วนการตกแต่งภายในจะมาในสไตล์ “Modernize Mid-Century” ที่มีเส้นสายเรียบง่าย ชัดเจน และรูปทรงเลขาคณิตที่ไม่ซับซ้อน 

นอกจากนี้ทางโครงการยังมีรูปแบบห้องเพื่อการใช้ชีวิตที่หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์คนหลากไลฟ์สไตล์ รวมถึงมีห้องแบบ Vertical Suite หนึ่งเดียวในย่านนี้ และคุ้มค่าสำหรับผู้อยู่อาศัยด้วย Fully Furnished แต่งครบ พร้อมลากกระเป๋าเข้าอยู่ทันทีที่โครงการสร้างเสร็จเลยครับ โดยโครงการจะเริ่มก่อสร้างปี 2564 และเสร็จประมาณปี 2565

แต่อีกสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นมากๆ ก็คือเรื่องของส่วนกลางนั่นเองครับ เพราะแม้ว่าโครงการจะเป็นคอนโดฯ Low Rise แต่ส่วนกลางที่นี่จัดเต็มมากถึง 32 รายการ เราลองไปดูกันครับว่ามีอะไรกันบ้าง

ส่วนกลางจัดเต็มทุกตึก
เอาใจทั้งนักศึกษาและคนทำงาน มากถึง 32 รายการ

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ส่วนกลางของแต่ละโครงการเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อโครงการเลยก็ว่าได้ และอีกความท้าทายของเหล่า Developer ก็คือการสร้างส่วนกลางที่สามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในช่วง New Normal เช่นนี้ และแบรนด์ “KAVE Condo” เองก็เป็นอีกแบรนด์ที่ผมวางใจเรื่องนี้ เพราะส่วนกลางแต่ละโครงการที่ผ่านมานั้นจัดเต็ม คุ้มค่าสุดๆ ซึ่งอย่างที่เราทราบกันครับว่าแบรนด์นี้เน้นพัฒนาโครงการเพื่อเจาะกลุ่มเด็กมหาวิทยาลัยเป็นหลัก แน่นอนว่าทาง AssetWise ต้องจัดเต็มเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับวัย Campus อยู่แล้ว ซึ่งส่วนกลางของโครงการ “KAVE ศาลายา” จัดเต็ม 32 รายการ ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ สำหรับคอนโดฯ Low Rise ลองไปดูกันครับว่าโครงการให้อะไรมาบ้าง…

ก่อนอื่นเลยลองมาดูบรรยากาศ Sales Gallery ของโครงการกันก่อนเลยครับ ซึ่งตัว Sales Gallery จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวที่ตั้งจริงของโครงการเลยครับ

BUILDING A : LEARNING : ส่วนกลางของที่นี่จะกระจายอยู่ทุกตึกเลยครับ ซึ่งส่วนของตึก A จะเป็นพื้นที่สําหรับ LEARNING พื้นที่ส่วนใหญ่ไว้สําหรับรองรับการทํางานของลูกบ้าน ซึ่งถือว่าตอบโจทย์กลุ่ม Work From Home อีกทั้งยังเด็กนักศึกษามากเลยทีเดียวครับ
◼ Co-Idea Space
◼ Creative Lobby
◼ Meeting Chamber
◼ Meeting Lounge
◼ Learning Hub
◼ Working Pods
◼ Sky Terrace
◼ Sky Cinema
◼ Sky Amphitheater
◼ KAVE Viewpoint

BUILDING B : REST & RELAX : ส่วนพื้นที่นี้จะเป็นอีกพื้นที่ที่เป็นมุมพักผ่อนให้ลูกบ้านได้ผ่อนคลายในช่วงวันหยุด หรือช่วงเวลาหลังเลิกงานหรือเลิกเรียนได้ เป็นเหมือนพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ของลูกบ้านในโครงการ ซึ่งแต่ละพื้นที่นั้นรองรับกลุ่มวัย Campus และกลุ่มคนวัยทำงานในย่านได้เป็นอย่างดีเลยครับ ค่อนข้างทันสมัย และตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
◼ Sharing Lobby
◼ Smart Laundry Lounge
◼ Board Game Arena
◼ Console & VR Room
◼ Music Studio
◼ KAVE Theater
◼ Fun Space

BUILDING C : ACTIVE : สำหรับส่วนกลางตึกนี้จะเป็นส่วนกลางแนว ACTIVE สำหรับสายกิจกรรมที่ไม่ชอบอยู่เฉยๆ มีค่อนข้างเยอะและครบจริงๆ ครับ อย่างสายสุขภาพที่ชอบออกกำลังกายเอง น่าจะถูกใจกันมาก เพราะที่โครงการมีให้ครบแล้ว แบบไม่ต้องออกไปข้างนอกเลยครับ
◼ Pulse Pool
◼ Hydro Massage
◼ Jet Pool
◼ Botanic Garden
◼ The Gym
◼ Health Station
◼ Fit Studio
◼ Co-Kitchen
◼ KAVE Café
◼ Jacuzzi Seat

FACILITY ON GROUND : ส่วนกลางนี้เป็นพื้นที่ของชั้น GROUND หลักๆ แล้วจะเป็นมุมผ่อนคลายที่ผสมผสานธรรมชาติเข้ามา สามารถใช้เป็นมุมคลายเครียดได้ หรือใครที่อยากใช้เป็นมุมพักผ่อนเพื่อค้นหาไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานหรือการเรียนก็ได้เช่นกันครับ
◼ The Common Ground
◼ Valley Forest
◼ Sunken Lawn
◼ Hidden Bar
◼ Misty Falls

SUPERIOR SECURITY & TECHNOLOGY : สุดท้ายแล้วลองมาดูที่เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการกันบ้างครับ ซึ่งทางโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้พอสมควร จัดเต็มเพื่อเอื้อความสะดวกให้แก่ลูกบ้านหลายรายการเลยครับ 

◼ อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. & CCTV
◼ ระบบ Key Card เข้าออก, ระบบลิฟท์ล็อคชั้น และ Digital Door Lock
◼ บริการ Shuttle Service รับ-ส่ง หน้ามหาวิทยาลัย ประตู 5
◼ Smart Locker 24 ชม.
◼ High-Speed Wi-Fi Internet
◼ สะดวกสบายด้วย “Nasket” ไม่ว่าจะเป็นการสั่งของจาก Big-C, สั่งอาหารภายใน 1 ชม., บริการเรียกแม่บ้านหรือช่างซ่อม, บริการสั่งของออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Nasket, Youtube ที่เชื่อมต่อลําโพงเปิดเพลงฟังในห้องได้, บริการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และสามารถใส่ซิมเพื่อใช้ในการโทรผ่าน VDO Call ได้

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับส่วนกลางของที่นี่ที่จัดเต็มมากถึง 32 รายการ แค่ส่วนกลางก็เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากพอแล้ว แต่ยังมีในส่วนของรูปแบบห้องอีกครับ เพราะที่โครการ “KAVE ศาลายา” มีรูปแบบห้องให้เลือกหลากหลาย Type เลยครับ ลองไปดูความน่าสนใจของรูปแบบห้องกันต่อเลยครับ

รูปแบบห้องหลากหลาย ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์

โครงการ “KAVE ศาลายา” จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 588 ยูนิต + ร้านค้าอีก 1 ยูนิต ซึ่งรูปแบบห้องจะมีทั้งแบบ Simplex และ ห้องแบบ Vertical Suite ซึ่งต้องบอกว่ารูปแบบห้องแบบ Vertical Suite นั้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเดียวในย่านที่มีห้องรูปแบบนี้เลยครับ ส่วนขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องมีให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ

SIMPLEX (2nd – 6th floor)
◼ Studio ขนาด 20.59 – 24.31 ตร.ม.
◼ 1 Bedroom ขนาด 22.09 – 23.34 ตร.ม.
◼ 1 Bedroom ขนาด Extra 24.04 – 31.44 ตร.ม.
◼ 1 Bedroom ขนาด Exclusive 24.59 – 29.33 ตร.ม.
◼ 1 Bedroom Plus ขนาด 31.27 – 34.83 ตร.ม.

VERTICAL SUITE (7th floor)
◼ 1 Bedroom Extra VS ขนาด 20.81 – 29.42 ตร.ม. [28.46 – 45.76 ตร.ม.]
◼ 1 Bedroom Exclusive VS ขนาด 22.09 – 31.44 ตร.ม. [30.88 – 44.01 ตร.ม.]
◼ 1 Bedroom Plus VS ขนาด 31.27 – 34.83 ตร.ม. [44.28 – 53.66 ตร.ม.]

เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบห้องที่มีเยอะ เป็นตัวเลือกให้กับคนที่กำลังมองหาห้องในแต่ละสไตล์ที่ต่างกันออกไปได้อย่างลงตัว ส่วนห้องตัวอย่างของโครงการจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ห้องครับ เราลองไปดูกันครับว่าแต่ละห้องมีฟังก์ชันอะไรน่าสนใจบ้าง…

SIMPLEX
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.90 ตร.ม.

เริ่มจากห้องรูปแบบ SIMPLEX ก่อนเลยครับ ห้องนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 22.90 ตร.ม. ซึ่งผมต้องบอกก่อนครับว่าความคุ้มค่าของโครงการนี้ก็คือแต่งครบ พร้อมเข้าอยู่จริงๆ ซื้อแค่ฟูก ผ้าม่าน กับเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกนั้นทางโครงการให้มาครบเลยครับ ลองไปดูบรรยากาศภายในห้องนี้กันครับ 

พื้นที่แรกเป็นห้องครัวครับ ซึ่งครัวจะได้เป็นฟังก์ชันครัวปิด ทางโครงการแต่งเป็นรูปแบบ I – Shaped Kitchen มาให้ ทำให้พื้นที่ใช้สอยในส่วนของห้องครัวไม่คับแคบ และติดกันจะเป็นห้องน้ำซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วน แยกโซนแห้ง โซนเปียก มีฉากกั้น และกระจกให้ครบตามห้องตัวอย่างเลยครับ

ในส่วนของ Living Area นั้นสามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นก็ได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารก็ได้ตามความต้องการเลยครับ ซึ่งพื้นที่นี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอน แต่จะมีฉากกั้นมาให้ ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าดีมากครับ เพราะหลายคนชอบที่จะให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวนั่นเองครับ

พื้นที่ของห้องนอนนั้นถือว่าโอเคเลยครับ เพราะว่าเราสามารถเลือกวางเตียงตั้งแต่ 3 – 5 ฟุตได้สบายๆ เลย แต่หากใครที่อยู่คนเดียวแล้วอยากได้พื้นที่ใช้สอยในส่วนของห้องนอนเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถเลือกวางเตียง 3 ฟุตได้เลยครับ ซึ่งตัวของเตียงนั้นทางโครงการจะให้เฉพาะฐานเตียงมาครับ

การจัดสรรพื้นที่ภายในของห้องตัวอย่างทําให้เห็นภาพได้ค่อนข้างชัดเจน โดยพื้นที่ปลายเตียงยังสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ และยังสามารถทําเป็นมุมทํางานส่วนตัวๆ หรืออ่านหนังสือได้สบายๆ เลยครับ

ส่วนของมุมทำงานนั้นจะเชื่อมต่อกับระเบียงห้อง ซึ่งตัวระเบียงกว้างกว่าที่ผมคิดไว้เยอะสำหรับห้องขนาด 22.90 ตร.ม. เป็นระเบียงที่สามารถใช้งานได้จริงครับ เราลองไปดูห้องต่อไปกันครับ

SIMPLEX
ห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 25.26 ตร.ม.

ห้องนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 25.26 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยกว้างมากขึ้น ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ค่อนข้างหลากหลายมากยิ่งขึ้น และอีกอย่างคือ ห้องนี้อยู่กัน 2 คนได้สบายๆ เลยครับ 

ห้องนี้ยังเป็นฟังก์ชันครัวเปิดครับ พื้นที่ครัวจะอยู่ส่วนแรกเมื่อเปิดประตูเข้ามาเลยครับ และทางโครงการตกแต่งเป็น I – Shaped Kitchen มาให้เช่นกันครับ ชุดเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ นั้น ทางโครงการ Built-in มาให้เหมือนห้องตัวอย่างเลยครับ จะยกเว้นแค่เรื่องใช้ไฟฟ้าที่เราต้องซื้อเข้ามาเอง และอีกสิ่งที่ผมชอบมากสำหรับห้องนี้ก็คือชั้นเก็บของด้านหน้าห้อง ค่อนข้างลงตัวกับการใช้งานจริง ใช้เก็บรองเท้าคู่โปรด หรือของใช้ชิ้นเล็กๆ ได้เลยครับ

ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัว ซึ่งห้องน้ำของห้อง Type นี้จะสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือเข้าจากด้านนอก และเข้าจากห้องนอน ส่วนพื้นที่ภายในห้องน้ำนั้นแยกโซนแห้งโซนเปียก มีฉากกั้น กระจกต่างๆ พร้อมชุดสุขภัณฑ์ตามห้องตัวอย่างเลยครับ

ในส่วนของพื้นที่ Living Area จะค่อนข้างกว้างมาก จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ของห้องครัวแบบ Open Zone ทำให้ห้องยิ่งดูกว้างมากขึ้น ซึ่งโซนนี้สามารถปรับให้มีในส่วนของพื้นที่ Dining Area ประมาณ 2 ที่นั่งได้เลยครับ นอกจากนี้แล้วพื้นที่ในส่วนของ Living Area ยังมี Space เหลือเยอะ สามารถวางโต๊ะกลางได้ และยังมีพื้นที่ Built-in ชั้นวางของหรือชั้นวางทีวีได้ ส่วนตัวระเบียงที่เชื่อมต่อกับ Living Area นั้นถือว่ากว้างกำลังพอดีสำหรับห้องขนาด 25.26 ตร.ม. ใช้งานได้จริง หรือใครที่อยากจะตกแต่งระเบียงเป็นสวนขนาดย่อมก็ได้เช่นกันครับ

ลองขยับเข้ามาดูในส่วนของห้องนอนกันต่อครับ พื้นที่ห้องนอนจะมีหน้าต่างกระจกเต็มบาน สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติได้เลย ซึ่งพื้นที่ของห้องนอนถือว่าโครงการให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะพอสมควรครับ อย่างห้องตัวอย่างนั้นจะมีมุมทำงานมาให้ เหมาะสำหรับกลุ่มคนทํางานและน้องๆ นักศึกษาจริงๆ ครับ

SIMPLEX
ห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 28.31 ตร.ม.

มาต่อกันที่ห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 28.31 ตร.ม. ต้องบอกว่าห้อง Type นี้ถือว่าเป็นห้องที่ค่อนข้างได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนมากเลยทีเดียวครับ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่เยอะ และฟังก์ชันปรับได้เยอะ โดยเฉพาะส่วนของห้องนอนที่สามารถปรับเป็นเตียงเดี่ยว หรือเตียงคู่ก็ได้

ลองมาดูที่โซนแรกกันก่อนครับ ติดกับประตูก็จะเป็นห้องครัว ซึ่งเป็นครัวเปิด ซึ่งห้องตัวอย่างจะมีมุม Dining Area มาให้พร้อม เพราะพื้นที่ใช้สอยส่วนนี้ค่อนข้างกว้าง มี Space ให้ใช้สอยได้ตามความเหมาะสม ซึ่งเซตครัวเราก็จะได้ตามที่ห้องตัวอย่างตกแต่งมาเลยครับ ยกเว้นแค่เครื่องใช้ไฟฟ้า 

ส่วนพื้นที่ของห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัวเลยครับ แต่ทางเข้าจะต้องเข้าจากทางห้องนอน ส่วนตัวแล้วผมชอบห้องน้ำของห้องนี้ด้วยพื้นที่ที่ดูกว้าง ซึ่งฉากกั้นรวมถึงชุดสุขภัณฑ์ได้ตามห้องตัวอย่างเลยครับ

ในส่วนของพื้นที่ Living Area นั้นจะเชื่อมต่อกับส่วนของห้องครัวและ Dining Area เป็นแบบ Triple Combine โดยห้องตัวอย่างจะวางโซฟาเซตใหญ่มาให้เห็นเลยครับว่าพื้นที่ใช้สอยตรงนี้มีค่อนข้างเยอะ เราสามารถปรับฟังก์ชันตกแต่งเป็นมุมทำงานเพิ่มเข้ามาได้สบายๆ แต่สำหรับคนที่มีรูมเมทก็อาจจะใช้พื้นที่นี้เป็นอีกมุม Activity เล็กๆ ภายในห้องได้เลย ซึ่งมุมนี้ยังเชื่อมต่อกับระเบียงห้องที่กว้าง เวลาเปิดประตูระเบียง ยิ่งทำให้ห้องดูกว้างมากจริงๆ ครับ

ผมชอบไอเดียการวางเตียงคู่ของห้องนี้มากครับ เพราะอย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าห้องนี้ค่อนข้างเป็นที่สนใจของกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนปล่อยเช่า อย่างกลุ่มของนักศึกษาเองที่กำลังหาห้องพัก สามารถแชร์ห้องร่วมกับเพื่อนได้สบายๆ ซึ่งตัวเตียงนี้นอกจากจะเป็นเตียงคู่แล้ว ก็ยังสามารถปรับให้เป็นเตียงเดี่ยวได้อีกด้วย ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว หรือแชร์ห้องร่วมกับเพื่อน ก็ค่อนข้างตอบโจทย์เลยครับ แถมพื้นที่ใช้สอยภายในห้องยังกว้าง มี Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ในตัว สะดวกมากครับ

ห้อง VERTICAL SUITE
1 Bedroom Exclusive ขนาด 22.90 ตร.ม.

ปิดท้ายกันที่ห้องรูปแบบ VERTICAL SUITE กันบ้างครับ ห้องนี้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ขนาด 22.90 ตร.ม. ซึ่งความพิเศษของห้องนี้ก็คือชั้นลอยนั่นเองครับ Floor To Ceiling รวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 4.8 เมตร ลองไปดูบรรยากาศภายในห้องนี้กันครับ

เริ่มจากโซนแรกคือห้องครัวครับ ห้องนี้จะได้เป็นครัวปิด ทางโครงการมีฉากกั้นมาให้ ซึ่งเซตครัวจะได้ตามห้องตัวอย่าง ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งโครงการ Built-in เป็นครัวรูปแบบ I- Shaped Kitchen ครับ ส่วนตรงข้ามกับห้องครัวจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ แยกโซนแห้งโซนเปียกเป็นสัดส่วน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เช่นกันครับ และเซตสุขภัณฑ์ได้ตามห้องตัวอย่างครับ

ขยับมาดูในส่วนของ Living Area กันต่อครับ ห้องนี้ความพิเศษก็คือเป็นห้องเพดานสูงแบบ Double Volume เป็นห้องที่ค่อนข้างให้ความ Luxury ซึ่งเซตโซฟานั้นสามารถวางเซตใหญ่ได้สบายๆ เลยครับ เพราะพื้นที่ใช้สอยตรงนี้จะกว้างกว่าห้องรูปแบบ SIMPLEX ขนาด 22.90 ตร.ม. เนื่องจากพื้นที่ของห้องนอนถูกยกไปไว้ที่ชั้นบนนั่นเองครับ

อีกมุมที่น่าสนใจก็คือมุม Multipurpose Space ที่ทางโครงการตกแต่งมาเป็นมุมทำงาน มุมนี้ค่อนข้างดีเลยครับ เพราะด้านข้างจะเป็นกระจกทรงสูงเต็มบาน เทควิวระหว่างทำงานได้สบายๆ เป็นมุมทำงานที่ตอบโจทย์กลุ่ม Work From Home มากเลยทีเดียครับ

คราวนี้เราลองขึ้นไปดูที่ชั้นบนกันบ้างครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ชั้นนี้จะเป็นส่วนของห้องนอนครับ ทางโครงการจะมีฐานเตียงมาให้ และ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เรียบร้อย ซึ่งใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว ผมว่าห้องนี้ค่อนข้างตอบโจทย์เลยครับ เพราะสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยชั้นล่างสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ยามเพื่อนหรือแขกมาเยือนที่ห้องได้ ในขณะที่ชั้นบนเป็นอีกพื้นที่ส่วนตัวที่แยกออกมานั่นเองครับ

นอกจากห้อง 1 Bedroom Extra ขนาด 28.31 ตร.ม. ที่ทางโครงการทำเป็นเตียงคู่มาให้ที่ผมว่าน่าสนใจแล้ว ส่วนตัวผมเองค่อนข้างชอบห้องรูปแบบ VERTICAL SUITE ของโครงการมากครับ เพราะราคาเฉลี่ยของห้อง Type นี้ยังเป็นราคาที่เอื้อมถึง ผมว่าค่อนข้างคุ้มค่าเลยครับ บวกกับฟังก์ชันที่เพิ่มมากขึ้น ปรับเปลี่ยนได้เยอะ ตามการอยู่อาศัยจริง  ห้อง Type นี้จะอยู่ชั้น 7 เป็น Exclusive Floor และจากที่ได้ไปสัมผัสโลเคชั่นมาผมค่อนข้างชอบห้องที่อยู่ตรงตึกบี เนื่องจากด้านหลังจะค่อนข้างเคลียร์ เพราะเป็นวิวด้านหลังที่ไม่มีตึกบังครับ ซึ่งหากใครมองว่า Type ของห้องตัวอย่างอาจจะมีพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอ ก็สามารถขยับพื้นที่ใช้สอยไปที่ห้องขนาด 25.26 หรือ 28.31 ตร.ม. ก็ได้ครับ เพราะข้อดีของรูปแบบห้องโครงการ “KAVE ศาลายา” ก็คือมีให้เลือกเยอะมาก ส่วนเรื่องทิศทางของห้อง หลายคนอาจจะชอบห้องแปลนมุม อย่างผมเองจะค่อนข้างชอบห้องทิศใต้ เพราะรับลมได้ค่อนข้างดี และยิ่งหากเป็นชั้นที่สูงขึ้น ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกด้วยครับ แต่หากใครที่ไม่ได้ติดเรื่องความเป็นส่วนตัวมากนัก ห้องพักชั้นล่างๆ ก็ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะห้องด้านในที่สามารถเทควิวส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ หรือสวนร่มรื่นของโครงการก็ได้ครับ

แต่นอกจากฟังก์ชันต่างๆ ของแต่ละห้องที่ทาง AssetWise จัดเต็มมาให้แล้ว ทุกห้องของโครงการยังมีระบบ Home Automation เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วครับ ไม่ว่าจะเป็น…

Digital Door Lock แบบ 5 ระบบ ที่สามารถสแกนนิ้ว ใส่รหัส คีย์การ์ด กุญแจ และใช้งานผ่านแอปพลิเคชันได้เลยครับ นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็น One Time Password สำหรับส่งให้เพื่อน หรือแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดห้องได้ ซึ่งรหัสผ่านนี้จะอยู่ได้แค่ 2-3 ชม. เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยนั่นเองครับ
ระบบ Nasket เป็นอีกความสะดวกสำหรับลูกบ้าน ซึ่งลูกบ้านซึ่งสามารถใช้งานเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้จริงไม่ว่าจะเป็นการสั่งของจาก Big-C ซึ่งสินค้าจะมาลงที่ Lobby และแจ้งให้ทราบทางโทรศัพท์, สั่งอาหารภายใน 1 ชม. สะดวกสำหรับคนที่ไม่อยากออกไปไหน หรือคนที่ Work From Home, บริการเรียกแม่บ้านหรือช่างซ่อม, บริการสั่งของออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Nasket สำหรับนักช้อปทั้งหลาย, Youtube ที่เชื่อมต่อลําโพง 2 จุด บริเวณ Living และ Bedroom สามารถเปิดเพลงฟังในห้องได้, บริการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ หรือบริการต่างๆ และสุดท้ายคือสามารถใช้ในการโทรผ่าน VDO Call ได้อีกด้วยครับ

คราวนี้เราลองไปดูกันครับว่าสุดท้ายแล้วโครงการ “KAVE ศาลายา” เหมาะกับใครบ้าง?

โครงการนี้เหมาะกับใคร?

ผมจะขอพูดในเรื่องของการลงทุนก่อนเลยครับ เพราะโครงการ “KAVE ศาลายา” ค่อนข้างตอบโจทย์ในเรื่องของการลงทุนมากพอสมควร ซึ่งโครงการนี้ดูแลการปล่อยเช่าและซื้อขายต่อ โดย Asset A Plus ครับ หากมองในแง่ของการลงทุนแล้ว โครงการ “KAVE ศาลายา” เป็นอีกโครงการที่ถือว่าตอบโจทย์มาก หลักๆ แล้วเป็นเรื่องของศักยภาพทำเลส่งผลให้มูลค่าการลงทุนน่าสนใจ ซึ่งหลายคนคงรู้กันดีว่าทั้งราคาที่ดินและมูลค่าคอนโดฯ ส่วนใหญ่แล้วจะเพิ่มขึ้นทุกปี ยิ่งทำเลไหนมี Project ใหม่ๆ เข้ามาก็ยิ่งสร้างมูลค่าได้มากขึ้น แน่นอนว่าการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน (ช่วงตลิ่งชัน – ศาลายา) และตัวโครงการ “KAVE ศาลายา” ก็อยู่ใกล้กับตัวสถานีศาลายา ส่งผลให้เหล่านักลงทุนจับตามองโครงการนี้กันมากขึ้น และอีกปัจจัยที่ทำให้โครงการ “KAVE ศาลายา” เหมาะกับการลงทุนก็คือทำเลที่ทั้งใกล้มหาวิทยาและแหล่งงานในศาลายา ซึ่งผลตอบแทนในการปล่อยเช่าระยะยาวของคอนโดฯ ที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยนั้นไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปีแน่นอน ซึ่งความคุ้มค่าคือราคาเริ่มของโครงการคือ 1.49 ล้าน* เฉลี่ยประมาณ 70,xxx บาท/ตร.ม. เมื่อรวมกับสเปกและฟังก์ชันที่โครงการจัดเต็มมาให้ โครงการนี้ตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุน หรือแม้แต่คนที่กำลังมองหา Passive Income ในอนาคตมากครับ 

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

1. ทำเล : ทำเลศาลายาผมมองว่าที่นี่กำลังเป็นทำเลที่เติบโต ในอนาคตจะกลายเป็นอีกทำเลศักยภาพที่แข็งแกร่งทั้งเรื่องของระบบโครงข่ายคมนาคม หรือแม้แต่แหล่งอำนวยความสะดวก อย่างตัวโครงการที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ทำเลนี้แวดล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกครบ และตอบโจทย์การอยู่อาศัยอย่างแน่นอนครับ

2. ราคา : ริ่ม 1.49 ล้าน* แต่งครบแบบ Fully Furnished ซึ่งเราซื้อแค่เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าม่าน ก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยในวันที่โครงการสร้างเสร็จประมาณปี 2565 ถือว่าสะดวกมาก อีกอย่างคือเป็นราคาที่คุ้ม แถม Demand ก็มีเยอะอีกด้วยครับ

3. ส่วนกลาง : ส่วนกลางของโครงการผมยอมรับเรื่องของความเยอะ โครงการให้มาเยอะจริงครับสำหรับคอนโดฯ Low Rise มากถึง 32 รายการ และที่น่าสนใจคือมีการแบ่งคอนเซ็ปต์ของแต่ละโซนให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้จริง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มนักศึกษา อย่างห้อง Board Game Arena ที่ผมเองค่อนข้างชอบ เพราะกลุ่มนักศึกษายังเป็นวัยที่ชอบเล่นสนุก และอีกหลายโซนที่ตอบคนหลากไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

4. รูปแบบห้องและสเปก : รูปแบบห้องโดยรวมถือว่าจัดฟังก์ชันมาได้ตอบโจทย์คนหลากหลายรูปแบบ อย่างผมเองจะชอบการดีไซน์ห้องเตียงคู่เป็นพิเศษ ซึ่งโครงการอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ย่านที่เต็มไปด้วยนักศึกษา ซึ่งเห็นถึงความใส่ใจและค่อนข้าง Insight ชีวิตของกลุ่มนักศึกษาจริงๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วหอพักนักศึกษาก็คือการแชร์ห้องร่วมกันของรูมเมท แต่หากไม่อยากแยกเตียง ก็ยังสามารถขยับเตียงชิดกันได้ ห้องนี้ผมชอบมากครับ

5. การลงทุน : โครงการนี้ผมมองว่าเหมาะสำหรับลงทุนปล่อยเช่า เพราะที่นี่ Yiled ดี และทำเลน่าลงทุน โดยเฉพาะในอนาคตที่กำลังจะมีรถไฟฟ้าเข้ามาเสริมศักยภาพของทำเลมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าใครอยากมองสำหรับอยู่อาศัยเอง ก็สามารถซื้อเพื่ออยู่เองได้ครับ เพราะเรื่องของการเดินทางสามารถเข้าและออกเมืองได้ง่าย ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกหลายแห่ง และราคาเฉลี่ยประมาณ 70,xxx บาท/ตร.ม. ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่ามากครับ

และตอนนี้ทาง Sales Gallery ของโครงการ “KAVE ศาลายา” เปิดพร้อมจองสิทธิ์แล้ว และจะมีการเปิดจองพร้อมกันครั้งแรกในรอบ VVIP วันที่ 6 มีนาคมนี้ครับ

📌 ลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ์และรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ >> https://bit.ly/3s8FAGE

📌 พิกัดโครงการ: https://bit.ly/2Hx6Ay0

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม…

◼ โทร. >> 02-168-0000

◼ Line OA >> @kavesalaya หรือ คลิก : https://lin.ee/ePiumAf

 

โพสต์ไว้ที่: Review

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *