สืบก่อนโอน M Jatujak

M Jatujak
เอ็ม จตุจักร

ทำเลศักยภาพของโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเล “ย่านจตุจักร – สะพานควาย” ที่เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าและอยู่ในเมือง ทำให้โซนนี้ก็ยังมีคนสนใจ แต่ในบางครั้งทำเลโซนนี้ก็ถูกมองข้ามไปเช่นกันครับ ด้วยราคาที่สูงที่ Developer หลายเจ้าส่งมาเพราะเห็นว่าใกล้รถไฟฟ้า แต่ดีมานด์ของคนโซนนี้ก็ไม่มีเพียงพอที่จะซื้อได้ทั้งหมดและเกินงบไปเหมือนกันครับ แต่ผมมองว่ายังมีอีกโครงการที่พร้อมอยู่และมาในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งน่าสนใจ คือโครงการ “M Jatujak” โครงการภายใต้การดูแลของ Major Development ครับ เรามาดูกันครับว่าโครงการนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง?

ทำเลเดินทางสะดวก ใกล้ BTS และ MRT

โครงการ “M Jatujak” เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 18 การเดินทางเข้าเมือง ถือว่าค่อนข้างสะดวกออกจากโครงการมา 80 ม. ก็ถึงถนนพหลโยธิน ส่วนการเดินทางออกนอกเมือง ถ้าไปฝั่งรังสิตดอนเมืองก็ใช้เส้นวิภาวดีหรือพหลโยธินก็ได้ครับ นอกจากการใช้รถยนต์ส่วนตัวแล้ว ตัวเลือกการเดินทางแบบระบบสาธารณะที่นี่มีค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ แท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซต์ แต่ที่ต้องบอกว่าเป็นจุดเด่นของทำเลโครงการนี้เลย ก็คือ รถไฟฟ้าครับ เพราะตัวโครงการอยู่ใกล้ทั้ง BTS และ MRT ซึ่งตัว BTS นั้นจะใกล้สถานีหมอชิตและสะพานควาย ส่วน MRT จะใกล้สถานีจตุจักรและกำแพงเพชร นอกจากในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วง หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างและพร้อมเปิดให้บริการในปี 2564 อีกด้วยครับ ดังนั้น ทำเลโครงการนี้จึงมีความน่าสนใจค่อนข้างมาก เรามาดูสรุปจุดเด่นของทำเลโครงการนี้กันครับ

จุดเด่นทำเล 

◼️ 10 นาที จากเซ็นทรัลลาดพร้าว
◼️ 40 เมตร จากตลาดนัดสวนจตุจักรและใกล้ตลาด อตก.
◼️ 350 ม. จาก MRT กำแพงเพชร
◼️ 450 ม. จาก BTS หมอชิตและสะพานควาย
◼️ ใกล้ทางด่วนศรีรัชและดอนเมืองโทลล์เวย์
◼️ เข้าออกได้ 2 เส้นทาง จาก ถ. วิภาวดีรังสิต และ ถ.พหลโยธิน
◼️ ใกล้ห้างสรรพสินเค้า เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนียน มอลล์ และ Big-C ลาดพร้าว
◼️ ใกล้ รพ. เปาโล เมโมเรียล, รพ. พญาไท 2 และ รพ. วิชัยยุทธ
◼️ ใกล้โรงเรียนหอวัง, ม. เกษตรศาสตร์ และ ม. เซนต์จอห์น

“M Jatujak” คอนโดพร้อมอยู่ โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ “The Urban Forest” ด้วยพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่

นอกจากจุดเด่นเรื่องของทำเลโครงการแล้ว สิ่งที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นอีกหนึ่งข้อของโครงการก็นี้คือ “Design” ครับ อย่างตัวอาคารนั้นออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติตามคอนเซ็ปต์ The Urban Forest ในสไตล์ Modern Tropical ซึ่งเป็นการนำเอาเส้นสายและโทนสีของธรรมชาติมาพัฒนาในรูปแบบของ Vertical Pattern และเลือกใช้โทนสี Earth Tone เป็นการสร้างความอบอุ่น เงียบสงบ ทำให้ตัวอาคารและห้องพักภายในโครงการน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งถามผมในส่วนของคอนเซ็ปต์ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ของคนที่ใช้ชีวิตในเมือง เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายหรือความเครียดจากการทำงาน ธรรมชาติและความสงบก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยได้ครับ โดยโครงการ “M Jatujak” เป็นคอนโด High-Rise 2 อาคาร โดยอาคาร A สูง 32 ชั้น จำนวน 459 ยูนิต และ อาคาร B สูง 34 ชั้น จำนวน 405 ยูนิต รวมทั้งหมด 864 ยูนิต

และในส่วนนี้เราก็รู้จุดเด่นเรื่องรูปแบบโครงการกันไปแล้ว คราวนี้เรามาดูจุดเด่นข้ออื่นกันต่อดีกว่าครับ

คอนโดแห่งแรกที่มี  “Indoor Sport Area” และส่วนกลางจัดเต็ม 62 รายการ

และอีกจุดเด่นของโครงการนี้ที่ผมต้องขอพูดถึงก็คือ “ส่วนกลาง” ของโครงการนี้ที่ให้ถึง 62 รายการ จัดเต็มทั้ง 2 อาคาร และอย่างที่เราทราบกันแล้วว่าพื้นที่ส่วนกลางของโครงการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Urban Forest” เป็นป่ากลางเมืองที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความร่มรื่นของผืนป่า และนอกจากนี้โครงการนี้ยังเป็นคอนโดแห่งแรกด้วยครับ ที่มี Indoor Sport Area การออกแบบส่วนกลางนั้นจะมีการเชื่อมกับตัวอาคารพักอาศัยที่อยู่ถัดเข้าไป ทำให้ความรู้สึกของผู้อาศัยสงบและผ่อนคลาย และบริเวณสวนสีเขียวยังถูกจัดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่สำหรับลูกบ้านอีกด้วยครับ ซึ่งผมขอสรุปเฉพาะจุดเด่นที่น่าสนใจนะครับ ลองไปดูกันครับว่าส่วนกลางของโครงการนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

Sport Arena : เริ่มกันที่ชั้น Ground กันก่อนเลยครับ สำหรับอาคารนี้จะอยู่ด้านหน้าโครงการ เป็นอาคาร Sport บนพื้นที่กว่า 400 ตร.ม. และถือว่าเป็นคอนโดแรกที่มี Indoor Sport Area โดยด้านในจะมีทั้งสนามแบดมินตัน, สนามสตรีทบาสเกตบอล และสนามฟุตซอล แถมตัวอาคารยังเชื่อมยาวไปจนถึงด้านหลังของโครงการที่จะมีส่วนของสนามเด็กเล่นด้วยครับ

Street Basketball : สนามบาสเก็ตบอลภายในอาคาร Sport Arena จะเป็นลักษณะในร่ม มีพื้นที่ออกกำลังกายค่อนข้างกว้างครับ ใครสาย Healthy พื้นที่ตรงนี้เหมาะมากครับ

Futsal : สำหรับสนามฟุตซอลภายในอาคารค่อนข้างกว้างเลยครับ อยากจะนัดกับครอบครัวหรือแม้แต่เพื่อนบ้านภายในโครงการมาผ่อนคลายด้วยการเล่นกีฬาก็ได้

Badminton : สนามแบดมินตัน พื้นที่ส่วนกลางของคนชอบออกกำลังกาย เพราะเป็นกีฬาที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัย สนามภายในโครงการค่อนข้างได้มาตรฐาน เราไม่ต้องเสียเงินไปเช่าสนามและเสียเวลาเดินทางออกไปไหนไกลเลยครับ

Tree House : หรือเรียกว่าบ้านต้นไม้ที่ผมเกริ่นไปก่อนหน้าว่าเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางเลยก็ว่าได้ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่พักผ่อนที่อยู่ภายในสวน มีทั้งหมด 8 หลัง ให้ลูกบ้านสามารถใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนได้

Jogging Track : ส่วนของลู่วิ่งออกกำลังกายภายในโครงการค่อนข้างดีเลยครับ เพราะมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาตลอด ไม่ต้องกลัวอากาศร้อน

Pet Zone : อีกจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็น Developer ทำกันครับ แต่ทาง Major Development แทบจะทำเป็น Signature ของแบรนด์ไปแล้ว นั่นก็คือ Pet Zone หรือ พื้นที่เลี้ยงสัตว์นั่นเองครับ ซึ่งที่นี่มีเป็นลานเอาไว้สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

Sky Pool Lounge : คราวนี้มาดูส่วนกลางที่ชั้น Roof Top กันบ้างครับ โดยนี้จะเป็นสระว่ายน้ำซึ่งจะมีโซนในร่มและกลางแจ้ง นอกจากนี้แล้วด้านข้างยังเป็นพื้นที่นั่งอ่านหนังสืออีกด้วยครับ ซึ่งในส่วนของสระนั้นจะมีทั้งสระเด็กพร้อมระบบ Bubble สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำระบบนวดครับ

Pool Table : อีกกิจกรรมยอดฮิตอย่างโต๊ะพูลทางโครงการก็มีมาให้เช่นกัน แถมยังเป็นห้องที่มีทำเลดี เพราะสามารถเทควิวเมืองได้อีกด้วย โต๊ะพูลมีไว้รองรับมากกว่า 1 โต๊ะครับ

Yoga Fly : ส่วนของพื้นที่ออกกำลังกายนั้นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับสาวๆ ก็คือห้องโยคะฟลาย อีกมุมออกกำลังกายที่วิวสวยเพราะสามารถเทควิวผ่านกระจกทรงสูงผ่านสระน้ำไปยังวิวเมืองได้

Sky Gym : ส่วนของฟิตเนสนั้นมีเครื่องเล่นรองรับค่อนข้างหลากหลายเลยครับ เป็นโซนที่เทควิวได้แบบ Double เลยครับ ไม่ว่าจะเทควิวสระก็ได้ หรือจะเทควิวเมืองก็ได้เช่นกัน

Party Yard : พื้นที่นี้สามารถชมวิวก็ได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับปาร์ตี้ก็ได้เช่นกันครับ ซึ่งมุมพักผ่อนแต่ละจุดค่อนข้างแบ่งเป็นสัดส่วน หากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่นี้ได้เช่นกันนะครับ แม้จะเป็นพื้นที่ให้ปาร์ตี้ได้ แต่ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้เช่นกัน

และนอกจากส่วนกลางที่ผมได้พูดถึงไปแล้ว โครงการนี้ยังมี Shuttle Bus บริการรับ – ส่ง อีกด้วยครับ อย่างที่ทราบกันว่าโครงการเน้นให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ดังนั้น สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง ก็คือ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพในระยะเดินเท้าเพียง 5 นาที นั่นก็คือ สวนจตุจักร, สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ

และนี่ก็เป็นส่วนกลางของโครงการ M Jatujak ทั้งหมดนะครับ เห็นไหมครับว่าโครงการนี้ให้ส่วนกลางมาแบบจัดเต็มและตอบโจทย์การใช้ชีวิตและเน้นการพักผ่อนของคนเมืองอย่างแท้จริงครับ และอีกจุดเด่นของโครงการนี้ คือ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เรามาดูกันครับว่ากลุ่มคนที่ผมพูดถึงคือใคร?

คอนโดตอบโจทย์คนรักสัตว์ด้วย Pet Zone

ปัจจุบันนี้หลายคนที่จะเลือกซื้อคอนโดมักมองเรื่องของทำเลเป็นหลัก เพราะนั่นจะส่งผลในเรื่องของการเดินทางและการใช้ชีวิต แต่สำหรับกลุ่มคน “รักสัตว์” นั้นกลับไม่ได้มองแค่เรื่องของทำเลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องมองหาคอนโดที่อนุญาตให้เราสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย ผมไม่แปลกใจเลยครับเพราะคนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีลูก ก็มักจะเลี้ยงสัตว์ไว้แก้เหงาด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อต้องย้ายเข้ามาอยู่คอนโดกลับต้องเจอกับข้อห้ามสำคัญก็คือ “ห้ามเลี้ยงสัตว์” นั่นเอง แต่สำหรับ M Jatujak นั้นกลับมีพื้นที่ให้เราสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ จนที่นี่กลายเป็นคอนโด “Pet Friendly”

ซึ่งโครงการอนุญาตให้เราสามารถเลี้ยงสัตว์ได้บนพื้นที่ “Pet Zone” ที่ออกแบบโดยเฉพาะให้กับน้องหมาน้องแมวได้วิ่งเล่นได้ ซึ่งสัตว์เลี้ยงที่เรานำมาเลี้ยงในโครงการนั้นจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กก. ต่อพื้นที่ 50 ตร.ม. ครับ

นอกจากจุดเด่นข้อนี้แล้วรูปแบบห้องของโครงการนี้ก็มีความแตกต่างและน่าสนใจครับ เรามาดูกันครับว่าโครงการนี้มีรูปแบบห้องอย่างไรบ้าง?

รูปแบบห้อง Dynamic Living Space พร้อมยูนิตพิเศษ Rare Item แบบ Fully Furnished

สำหรับโครงการ M Jatujak จะมีรูปแบบห้องอยู่ 6 รูปแบบ ดังนี้ครับ

◼️ 1 Bedroom Suite ขนาด 28.16 – 30.51 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom ขนาด 28.50 – 35.98 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Duplex ขนาด 46.57 – 57.17 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom ขนาด 45.83 – 65.70 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom Duplex ขนาด 80.52 – 80.64 ตร.ม.
◼️ 3 Bedroom ขนาด 119.52 ตร.ม.

ความสูงฝ้าเพดานของโครงการจะอยู่ที่ 2.6 เมตรครับ  โครงการขายแบบ Fully Furnished และห้องตัวอย่างที่ทางโครงการมีให้ชมจะมี 3 แบบ คือ ห้องรูปแบบ 1 Bedroom Suite ขนาด 28.42 ตร.ม. 1 Bedroom ขนาด 32.96 ตร.ม. และห้องรูปแบบ 2 Bedroom ขนาด 56.12 ตร.ม. เรามาดูรูปแบบห้องแต่ละแบบกันนะครับว่ามีรูปแบบและความน่าสนใจตรงไหนกันบ้าง

1 Bedroom Suite ขนาด 28.42 ตร.ม.
ฟังก์ชันครบ วิวส่วนตัวในห้องนอน

เรามาเริ่มกันที่ห้องตัวอย่างห้องแรกกันเลยครับ ห้องนี้จะเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 28.42 ตร.ม. ซึ่งเข้ามาจะเจอกับครัว มีลักษณะเป็นครัวแบบเปิดติดห้องครัวจะเป็นห้องน้ำ ภายในห้องน้ำจะมี Shower Box และเป็นกระจกแบบนิรภัย

ด้วยครับ ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ของ Living Area และ ห้องนอน ซึ่งแบ่งกั้นสัดส่วนด้วยบานเลื่อนกระจก มาดูในส่วนของห้องนอนก่อนนะครับ ห้องนอน จะกั้นด้วยกระจก ไม่ได้เป็นแบบทึบปิดกั้น เพื่อให้ห้องดูโปร่งและกว้าง แต่ความเป็นส่วนตัวลดลง ซึ่งห้องนอนรูปแบนี้จะค่อนข้างกว้างครับ และมีระเบียงไว้สำหรับชมวิวส่วนตัวภายในห้องนอนอีกด้วย  ตู้สื้อผ้าภายในห้องนอน ทางโครงการ Built-in ไว้ให้ครับ มีลักษณะเป็นบานเลื่อนปิดทึบไม้ลามิเนต ส่วนตัวผมมองว่าห้องนี้มีฟังก์ชันครบ แต่ Livig Area เล็กไปหน่อยครับ เหมาะสำหรับคนที่อยู่ 1 – 2 คน และชอบความเป็นส่วนตัวไม่ค่อยพาใครขึ้นมาบนห้องครับ เราต่อกันที่ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันเลยครับ

1 Bedroom ขนาด 32.96 ตร.ม.
ยูนิตพิเศษ เพิ่ม Daybed ชมวิวในห้องนอน

ห้องตัวอย่างห้องที่ 2 จะเป็นห้องรูปแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 32.96 ตร.ม. ฟังก์ชันห้องนี้ เดินเข้ามาจะเจอครัวแบบเปิดเช่นเดียวกับห้องแรกครับ ตรงครัวจะมีพื้นที่เก็บของที่ทางโครงการ Built-in ไว้ให้ด้วย และมีโต๊ะทานข้าวนั่งทานอาหารได้ แต่ผมมองว่าแคบไปหน่อย ส่วนถัดจากครัวจะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งมีระเบียงไว้สำหรับนั่งชมวิวเมืองได้ ทางด้านขวามือจะเป็นห้องนอนที่แบ่งกั้นสัดส่วนห้องชัดเจนครับ และมีห้องน้ำในตัว รวมถึงจุดเด่นของห้องนี้ คือ เป็นยูนิตพิศษที่มี Daybed ไว้สำหรับนั่งชมวิวหรือนั่งพักผ่อนได้ แต่หากมีเพื่อนมาห้องเรา บางทีการให้เพื่อนเข้าห้องน้ำอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นะครับ แต่ก็สะดวกเราที่อยู่อาศัยครับ มาต่อกันที่ห้องสุดท้ายนะครับ

2 Bedroom ขนาด 56.12 ตร.ม.
Living Area กว้าง ส่วนตัวด้วยห้องมุม

มาที่ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายของโครงการ จะเป็นห้องรูปแบบ 2 Bedroom 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 56.12 ตร.ม. โดยเริ่มจากทางเข้า เข้ามาเราจะเจอห้องครัวเช่นเคยครับ Major น่าจะจัดรูปแบบห้องเป็นครัวเปิดเกือบทั้งหมด เพราะห้อง 2 Bedroom ห้องนี้ก็เป็นครัวแบบเปิดเช่นกัน เดินเข้ามาหน่อยจะเป็น Living Area ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ถือว่าค่อนข้างใหญ่ และระเบียงอยู่ตรง Living  สามารถชมวิวได้เลยครับ ถัดเข้ามาทางด้านในจะเจอโซนห้องน้ำและห้องนอน โดยห้องน้ำและห้องนอนจะจัดแปลนเป็นคู่ขนานกันไปครับ มีห้องน้ำ Master Bathroom อยู่ในห้องนอน Master Bedroom และในห้องนอน Master Bedroom ยังมีพื้นที่ Walk-in Closet และ Working Area อีกด้วยครับ ส่วนห้องนอน 2 จะมีมุม Daybed ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนได้ครับ 

และนอกจากห้องตัวอย่างที่โครงการได้จัดทำเป็นห้องตัวอย่าง 2 ห้องนี้แล้ว โครงการยังมียูนิตพิเศษที่น่าสนใจ อย่างห้อง Duplex ในรูปแบบ Glass House อีกด้วยครับ มาดูกันครับว่าห้องนี้มีลักษณะอย่างไรบ้าง

ห้องนี้จะเป็นรูปแบบ Duplex ที่เป็นยูนิตพิเศษที่ลักษณะป็น Glass House จะอยู่อาคาร A ชั้น 8 ยูนิตนี้ค่อนข้างน่าสนใจ

เลยครับ ด้วยตัวห้องออกแบบเป็นเรือนกระจกทั้งหมด เหมาะกับการพักผ่อนช่วงวันหยุดและยังสามารถชมวิวได้อีกด้วยครับ แต่ราคาก็สูงตามความเป็นส่วนตัวและยูนิตพิเศษเช่นกันนะครับ ใครมีงบประมาณเพียงพอก็จับจองได้ครับ

และนี่ก็เป็นรูปแบบห้องของโครงการ “M Jatujak” ทั้งหมดครับ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าทางโครงการได้คิดมาเพื่อตอบโจทย์คนหลากหลายกลุ่มและหลากหลายความต้องการครับ ใครชอบรูปแบบห้องแบบไหนลองดูได้นะครับ ผมว่ารูปแบบห้องมีให้เลือกครบตามต้องการ ทั้งหมดที่ผมได้พูดมาก็คือ จุดเด่นของโครงการนี้ทั้งหมดครับ เราลองไปดูกันบ้างครับว่าโครงการนี้เหมาะกับใครบ้าง…

คอนโดนี้เหมาะกับใคร?

…ในความเห็นของผม โครงการนี้เหมาะซื้ออยู่เอง เพราะราคาเริ่ม 3.5 ล้าน* (เริ่มเพียง 125,000 บาท/ตร.ม.) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาดในโซนนี้  และเป็นราคาที่จับต้องได้ และโครงการยังให้ทั้งส่วนกลางที่มาครบและจัดเต็ม 62 รายการ รวมถึงยังเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ชอบใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติและชอบออกกำลังกายอีกด้วยครับ ผมเลยมองว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่าการลงทุน เพราะอย่างที่บอกทำเลนี้อาจจะไม่ได้เหมาะในเรื่องของการปล่อยเช่า ด้วยราคาที่ดินมาแพง ราคาขายเลยแพงไปด้วย แต่ดีมานด์ไม่ได้มีงบประมาณที่จะซื้อมาเพื่อปล่อยเช่าได้ครับ

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

 

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1. ทำเล : ทำเลดีมีศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT (รวมทั้งหมดถึง 4 สถานี) และเพียง 40 เมตรถึงสวนจตุจักร สวนสาธารณะยอดนิยมของคนเมืองอีกด้วยครับ รวมถึงโครงการนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการที่ผมมองว่าอุมสมบูรณ์และครบมากครับ

2. ราคา : ราคาคุ้ม เริ่ม 3.5 ล้าน* ได้ Fully Furnished พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและ Multi Function Furniture ทางโครงการมี 2 สไตล์ให้เลือกก็คือ Macy Style และ Martin Style พร้อมทั้ง Built-in เฟอร์นิเจอร์และติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แล้วบางส่วน จึงถือได้ว่าโครงการนี้คุ้มค่ามากครับ

3. ส่วนกลาง : ต้องบอกว่าส่วนกลางของที่นี่ให้มาค่อนข้างเยอะกว่า 62 รายการ แถมมี Indoor Sport Area โดยส่วนกลางจะมีให้ทั้ง 2 อาคาร จัดเต็มทั้ง 2 อาคาร นอกจากนี้โครงการยังมีที่จอดรถแบบแยกอาคารมากถึง 50% หรือประมาณ 384 คัน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสำหรับคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าครับ

4. รูปแบบห้องและสเปก : รูปแบบห้องฟังก์ชันครบและลงตัว และเป็นแบบ Dynamic Living Space ที่สามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ห้องสามารถเป็นฟังก์ชันอื่นๆ ได้อีกด้วยครับ นอกจากนั้นโครงการนี้ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ครบ พร้อมอยู่ รวมถึงมีให้เลือกได้หลายรูปแบบ ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายกลุ่ม ส่วนสเปกที่โครงการให้มาก็ดีครับ

5. การลงทุน : ในเรื่องของการลงทุน โครงการนี้เหมาะซื้ออยู่เอง เพราะราคาเริ่ม 3.5 ล้าน* (เริ่มเพียง 125,000 บาท/ตร.ม) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าตลาดในโซนนี้และเป็นราคาที่จับต้องได้ แถมโครงการยังให้ทั้งส่วนกลางครบและจัดเต็ม 62 รายการ รวมถึงยังเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ชอบใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติและชอบออกกำลังกายอีกด้วยครับ ผมเลยมองว่าเหมาะกับการอยู่อาศัยมากกว่าการลงทุน เพราะอย่างที่บอกทำเลนี้อาจจะไม่ได้เหมาะในเรื่องของการปล่อยเช่า ด้วยราคาที่ดินมาแพง ราคาขายเลยแพงไปด้วย แต่ดีมานด์ไม่ได้มีงบประมาณที่จะซื้อมาเพื่อปล่อยเช่าได้ครับ

ใครสนใจลองแวะเข้าไปดูนะครับ หรือลงทะเบียน ได้ที่ >> http://bit.ly/2Tz8z6w
หรือโทรไปสอบถามรายละเอียดหรือใช้สิทธิ์กันได้ที่ >> 02 116 1111

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *