สืบก่อนจอง DENiM JATUJAK

เดนิม จตุจักร
DENiM JATUJAK

ก่อนหน้านี้ผมเคยได้พาไปสืบทำเลของโครงการ Highlight จาก Grand Unity ที่หลายคนรอคอย อย่างโครงการ “DENiM JATUJAK” กันมาแล้ว ด้วยศักยภาพของทำเลรอบโครงการ บวกกับความน่าสนใจทั้งเรื่องคอนเซปต์ สเปกต่างๆ ที่ให้มาในราคาล้านกว่าๆ ทำให้ยอด Booking Online ที่เปิดจองเฉพาะช่องทางออนไลน์เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น Sold Out ไปในเวลาไม่กี่ ชม. บางคนนี่ถึงกับเว็บล่มก็มีครับ ถือว่าเป็นอีกปรากฏการณ์ที่ทำให้โครงการ DENiM JATUJAK กลายเป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นวันนี้เราลองมาดูกันครับว่าโครงการนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

“จตุจักร” ทำเลคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามอง

สำหรับที่ตั้งโครงการ “DENiM JATUJAK” นั้นจะอยู่ที่ซอยวิภาวดี 3 ห่างจากถนนวิภาวดี ประมาณ 450 เมตร และยังสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธินได้สะดวกอีกด้วย ซึ่งการเดินทางในย่านนี้สะดวกเพราะใกล้ทั้ง BTS หมอชิต, สะพานควาย และอารีย์ นอกจากนี้ยังใกล้ MRT จตุจักร, รัชดาภิเษก และสิทธิสาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการเช่นกันครับ แต่ความน่าสนใจของทำเลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ครับ เราลองไปดูกันครับว่า สิ่งที่จะมาตอกย้ำว่า “จตุจักร” เป็นคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงนั้น มีอะไรบ้าง…

Transportation Hub of Asia

ย่านจตุจักรถือเป็นทำเลศักยภาพสำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ซึ่งเป็นโซนสำคัญของการคมนาคม ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับครับว่าย่านที่กำลังเป็นกระแสเพราะขึ้นชื่อว่าเป็น New CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพก็คือย่านรัชดา – พระราม 9 ที่มีการขยายตัวมาจากการเชื่อมโยงด้วยรถไฟฟ้าจนกลายเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า Office เกรด A มากมาย รวมถึงที่พักอาศัยที่หนาแน่นขึ้น แต่ในขณะเดียวกันนั้น ย่านที่ถูกจับตามองอีกย่านที่ได้รับอานิสงส์จากการผลักดันโครงการขนาดใหญ่อย่าง “ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน” หรือที่เรียกกันว่า “สถานีกลางบางซื่อ” ที่มีพื้นที่กว่า 400 ไร่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการเดินทาง รถ – ราง แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และคาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2564 ที่จะถึงนี้ ทำให้พื้นที่ในย่านหมอชิต จตุจักร ห้าแยกลาดพร้าว และวิภาวดีรังสิต ถูกยกให้เป็น “Transportation Hub of Asia” ดังนั้นย่านที่กำลังเป็นคลื่นน้องใหม่มาแรงในตอนนี้ ถ้าไม่พูดถึงจตุจักรก็คงไม่ได้เช่นกันครับ

เดินทางสะดวก รายล้อมด้วย Community Mall

นอกจากนี้แล้วศักยภาพในการเดินทางของย่านนี้ในปัจจุบันก็เอื้ออำนวยแก่คนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวอีกด้วยครับ เพราะใกล้ทางด่วนศรีรัช ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ แต่สำหรับคนที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะก็มีรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และสายสีน้ำเงิน (MRT) รองรับการเดินทางในย่านนี้อีกด้วยครับ และในส่วนของแหล่งอำนวยความสะดวกในย่านจตุจักรนั้น ผมว่าย่านนี้เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์และยังมีสถานที่สำคัญอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Central ลาดพร้าว, ตลาด อ.ต.ก. หรือจะเป็นตลาดนัดสวนจตุจักร สถานที่ยอดฮิตที่แม้แต่คนย่านอื่นก็ต้องเดินทางมาที่นี่

แหล่งงานชั้นนำ และศูนย์รวม Office Building ขนาดใหญ่

แต่อีกสิ่งที่ตอกย้ำความเจริญของทำเลจตุจักรนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่โครงข่ายคมนาคมเท่านั้นครับ เพราะย่านนี้ในปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นแหล่งงานชั้นนำไม่ต่างไปจากทำเล CBD หรือ New CBD เลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้ก็ด้วยอานิสงส์ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เข้ามาเป็นตัวกระตุ้นศักยภาพของย่านนี้ด้วยครับ และไหนจะมีสถานีกลางบางซื่อที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นอีกด้วย ทำให้กลุ่มนักลงทุนต่างเล็งเห็นความสำคัญตรงนี้ อีกทั้งที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพราะจตุจักรเองก็เป็นที่ตั้งสำนักงานทั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนขนาดใหญ่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น, กรมขนส่งทางบก, กรมการบินพลเรือน, ธนาคาร TMB สำนักงานใหญ่, การบินไทยสำนักงานใหญ่, บางกอกแอร์เวย์สำนักงานใหญ่, ปตท. สำนักงานใหญ่, BOI สำนักงานใหญ่ รวมไปถึงฝั่งพหลโยธินที่มีกรมป่าไม้และหน่วยงานราชการภายใต้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อีกด้วยครับ

พื้นที่ฟอกปอดของคนกรุงเทพฯ

แต่อีกสิ่งที่ทำให้จตุจักรเป็นทำเลที่น่าอยู่ที่ผมจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ที่นี่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ฟอกปอดให้กับคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการหลีกหนีมลภาวะต่างๆ ซึ่งสวนสาธารณะขนาดใหญ่นี้มีด้วยกัน 3 แห่งคือ สวนวชิรเบญจทัศ (หรือสวนรถไฟ) พื้นที่ประมาณ 375 ไร่, สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พื้นที่ประมาณ 140 ไร่ และสวนจตุจักร พื้นที่ประมาณ 140 ไร่ ซึ่งทั้ง 3 แห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่เชื่อมต่อกันทั้งหมดครับ เมื่อมองภาพรวมแล้ว ก็เท่ากับว่าจตุจักรมีสวนสาธารณะที่ใหญ่กว่า 700 ไร่ ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ นั่นเองครับ

ซึ่งผมได้สรุปจุดเด่นของทำเลโครงการ “DENiM JATUJAK” มาไว้แล้ว ลองไปดูกันครับว่าจุดเด่นของทำเลนี้มีอะไรบ้าง… 

จุดเด่นทำเล
◼️ ใกล้ถนนวิภาวดี – รังสิต, ถนนสิทธิสารวินิจฉัย, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนพหลโยธิน และถนนลาดพร้าว
◼️ ใกล้ MRT (สถานีรัชดาภิเษก, สุทธิสาร และจตุจักร)
◼️ ใกล้ BTS (สถานีอารีย์, สะพานควาย และหมอชิต)
◼️ ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและแหล่งอำนวยความสะดวก เช่น Central ลาดพร้าว, Union Mall, ตลาด อตก., ตลาดนัดจตุจักร, JJ Mall เป็นต้น
◼️ ใกล้สวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ อย่าง สวนจตุจักร , สวนรถไฟ และสวนสิริกิต์

Grand Unity ส่งแบรนด์ “DENiM” บุกทำเลจตุจักร ด้วยกลยุทธ์ Penetration Pricing

ปีที่แล้วทาง Grand Unity ได้มีการปรับภาพลักษณ์ขององค์กร รวมถึงกลยุทธ์เพื่อสร้างเอกลัษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ ถือเป็นปีที่ Grand Unity เปิดตัวโครงการที่ล้วนแต่น่าสนใจทั้งนั้นครับ ซึ่งปีนี้มี 6 โครงการ เปิดตัวไปแล้วทั้งหมด โดยโครงการล่าสุดอย่าง “DENiM JATUJAK” นั้นถือเป็นโครงการที่มีมูลค่ามากที่สุด แต่ความน่าสนใจของโครงการนี้ก็คือกลยุทธ์การเสนอราคาขายที่ถูกที่สุดในย่านจตุจักร ซึ่งจะสอดคล้องกับ Penetration Pricing ที่มีการตั้งราคาต่ำเพื่อดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายหันมาสนใจแบรนด์มากยิ่งขึ้น ผมมองว่าแบรนด์ DENiM ประสบความสำเร็จครับ เพราะโครงการ DENiM JATUJAK เองเป็นโครงการที่เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ First Jobber และคนทำงาน ที่ต้นทุนไม่ได้สูงมากนัก ดังนั้นเมื่อโครงการเปิดตัวด้วยราคาที่เอื้อมถึง ไม่แปลกครับที่โครงการนี้จะกลายเป็นกระแสและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างล่าสุดที่มีการเปิด Booking Online ก็สามารถปิดการขายได้ภายใน 3 ชม. ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้โครงการน่าจะกวาดยอดขายได้กว่า 80% อย่างแน่นอนครับ

คอนโดตามแบบฉบับคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “Plan​ To Live Unplanned”

สำหรับโครงการ “DENiM JATUJAK” นั้น หากดูภาพรวมโครงการจะเห็นได้เลยว่าการดีไซน์ภายนอกดูเรียบง่าย แต่ในขณะเดียวกันความเรียบง่ายนี้กลับได้รับการใส่ใจทุกรายละเอียด ซึ่งเมื่อเห็นงาน Interior แล้วจะเห็นได้ว่าทางโครงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพตามมาตรฐานของ Grand Unity อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง “Safety Glass” หรือกระจกนิรภัยทั้งโครงการ ทั้งในส่วนกลางและห้องพักอาศัย หรือจะเป็นการติดตั้ง “WC Pod” หรือห้องน้ำสำเร็จรูปที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากทางโรงงานผู้ผลิต ทำให้ง่ายต่อการดูแล ซ่อมแซมได้โดยไม่รบกวนผู้พักอาศัยห้องด้านล่าง และ “Private Balcony” หรือการออกแบบระเบียงให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง แถมพื้นที่สีเขียวของโครงการยังมีขนาดกว่า 2 ไร่ และยังมีการออกแบบ “Sky Bridge” ซึ่งเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างอาคารทั้ง 4 อาคารเข้าด้วยกัน ให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งการวางตำแหน่งอาคารของที่นี่ก็ยังไม่ทำให้เกิดการบังแสงธรรมชาติ ทิศทางลม หรือแม้แต่ทัศนียภาพรอบด้านอีกด้วยครับ ทุกห้องที่เป็นแปลนด้านในสามารถเทควิวส่วนกลางได้ทั้งหมด แต่ที่สำคัญคือโครงการนี้ยังผ่านรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนเริ่มขายอีกด้วยครับ

แต่สิ่งที่ตอบโจทย์แนวคิดของโครงการอย่าง “Plan​ To Live Unplanned” ได้อย่างชัดเจนที่สุด ผมว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่มีการออกแบบให้รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตได้อย่างครบครัน อย่างส่วนกลางบางจุดที่สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชม. ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบใช้ชีวิตแบบ 24 Hours Lifestyle ตามวิถีคนเมืองอีกด้วยครับ ซึ่งส่วนกลางของที่นี่ผมว่าโครงการให้มาค่อนข้างเยอะเลยครับ จัดเต็มทุกอาคาร ซึ่งนอกจากมีโซนที่เปิด 24 ชม. แล้ว อีก Highlight ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่มากๆ ก็คือโซน Rhythm Studio หรือห้องซ้อมดนตรีนั่นเองครับ ซึ่งพื่นที่นี้ไม่ค่อยเห็นโครงการไหนให้มา แต่ที่ DENiM JATUJAK ให้มาครับ

ไม่มีเหตุผลให้ต้องคิด กับคอนโดที่แพลนไว้ให้ครบ

คราวนี้เราลองไปดูส่วนกลางของที่นี่กันบ้างครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง…

ส่วนกลางจัดเต็ม พื้นที่สีเขียวกว่า 2 ไร่ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต

อย่างที่ผมเกริ่นไปก่อนหน้านี้ครับว่าส่วนกลางของที่นี่ให้มาเยอะมาก และยังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต ซึ่งส่วนกลางของที่นี่โดดเด่นหลายจุดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น Workout Area อย่าง Up & Above Gym ที่เป็นห้องออกกำลังกาย 2 ชั้น แถมยังกว้างมาก พื้นที่กว่า 220 ตร.ม. ส่วนสระว่ายน้ำของที่นี่ก็มีขนาดใหญ่เทียบเท่าสระว่ายน้ำโอลิมปิก และ Jogging Track ยาวกว่า 270 เมตร เอาใจสายสุขภาพให้ออกกำลังกายได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีพื้นที่สีเขียวภายในโครงการกว่า 2 ไร่ พร้อมที่จอดรถภายในโครงการที่รองรับได้ถึง 978 คัน หรือประมาณ 53% ซึ่งวันนี้ผมมีภาพบรรยากาศจำลองส่วนกลางของโครงการมาฝาก เราลองไปดูกันครับว่าส่วนกลางของโครงการมีอะไรน่าสนใจบ้าง 

GROUND FLOOR
◼️ Double Volume Lobby
◼️ Park Area
◼️ Jogging Track
◼️ Atrium

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละอาคารประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยครับ…

BUILDING A
◼️ Brain Space
◼️ Meeting Area

BUILDING B
◼️ Relax Pool
◼️ Kids’ Pool
◼️ Rhythm Studio
◼️ Bike Simulator
◼️ Playroom
◼️ Theater Room
◼️ Lobby Lounge
◼️ Retreat Area

BUILDING C
◼️ Co-Living Area
◼️ Co-Kitchen Space
◼️ Co-Dining Area
◼️ E-Library

BUILDING D
◼️ Up & Above Gym
◼️ Sauna Steam
◼️ Active Pool
◼️ Yoga & Pilates
◼️ Green Roof
◼️ Outdoor BBQ

โดยรวมผมว่าส่วนกลางที่นี่ให้เยอะ และคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายออกไปครับ และส่วนกลางยังตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อีกด้วย เราดูส่วนกลางกันไปแล้ว คราวนี้ลองไปดูรูปแบบห้องกันบ้างครับว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง…

รูปแบบห้องฟังก์ชันครบ ทุกตารางเมตรใช้งานได้เต็มพื้นที่

สำหรับรูปแบบห้องของโครงการนั้นจะเน้นการออกแบบฟังก์ชัน ให้สามารถใช้งานได้ทุกตารางเมตรของห้อง และห้อง 1 Bed Plus สามารถนำมาเพิ่มพื้นที่ตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์ของคนพักอาศัยได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน เป็นต้น โดยระยะความสูงฝ้าเพดานของห้องพักทั้งหมดจะอยู่ที่ 2.5 เมตร รูปแบบห้องภายในโครงการมีทั้งหมดดังนี้ครับ…

◼️ Studio ขนาด 22.50 – 23.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom ขนาด 27.00 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Corner ขนาด 27.40 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Plus ขนาด 32.50 ตร.ม.
◼️ 1 Bedroom Plus Corner ขนาด 34.30 ตร.ม.
◼️ 2 Bedroom ขนาด 50.50 ตร.ม.

สำหรับห้องตัวอย่างนั้น ทางโครงการมีทั้งหมด 3 ห้องครับ เราลองไปดูกันครับว่าห้องตัวอย่างของที่นี่จะเป็นอย่างไรบ้าง…

Studio ขนาด 22.5 ตร.ม.
ลงตัวด้วยฟังก์ชันครัวปิด Combine Bedroom + Living

เริ่มกันที่ห้องแรกอย่างห้อง Studio ขนาด 22.5 ตร.ม. กันครับ สำหรับห้องนี้เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับฟังก์ชันครัวปิดก่อนเลยครับ ทางโครงการจัดวางครัวเป็นรูปแบบ I – Shaped Kitchen ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยระหว่างทางเดินทางมากขึ้น

สำหรับห้องน้ำของห้องนี้จะอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่ของห้องครัวเลยครับ พื้นที่ภายในกว้าง ตัวสุขภัณฑ์ก็ใช้เป็นแบรนด์มาตรฐาน และยังมีกั้นโซนแห้งและเปียกไว้อย่างมีสัดส่วน

ลองเข้ามาดูที่ห้องนอนกันบ้างครับ Mood & Tone ของห้องนี้ลงตัวกับคนสมัยใหม่ ซึ่งพื้นที่ภายในก็ค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตได้สบาย และยังมีพื้นที่เหลือให้ Built-in เฟอร์นิเจอร์หรือตู้เสื้อผ้าได้อีกครับ และติดกับกระจกทรงสูงของห้องนั้น พื้นที่ส่วนนี้สามารถวาง Daybed พักผ่อนได้ หรือใครจะจัดเป็นเซตโซฟาขนาดสัก 2 ที่นั่งไว้นั่งชิลในมุมนี้ก็ได้เช่นกันครับ ซึ่งพื้นที่ของห้องนอนและ Living จะ Combine กันครับ

1 Bedroom ขนาด 27.5 ตร.ม.
ห้องใหญ่ พื้นที่ใช้สอยจัดเต็ม

มาต่อกันที่ห้องตัวอย่างที่ 2 กันครับ สำหรับห้อง 1 Bedroom ขนาด 27.5 ตร.ม. ห้องนี้พื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น การจัดสรรพื้นที่ก็สามารถทำได้เยอะขึ้น ซึ่งเมื่อเปิดประตูห้องมาจะเจอกับ Living Area ก่อนเลยครับ พื้นที่ส่วนนี้สามารถวางโซฟาขนาด 2 – 4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะเล็กตรงกลางได้อีกตัวแบบสบายๆ เลยครับ โดยที่ยังมี Space ระหว่างโซฟากับหน้าทีวีเหลืออีก และยังสามารถ Built-in ชั้นวางของบริเวณหน้าทีวีได้อีกด้วย

ในส่วนของห้องครัวและห้องน้ำจะอยู่ติดกับ Living Area เลยครับ ซึ่งพื้นที่ห้องครัวของที่นี่จะเป็นฟังก์ชันครัวเปิด ทางโครงการจัดวางครัวเป็นรูปแบบ L – Shaped Kitchen เป็นการจัดสรรพื้นที่ที่มีจำกัดได้ลงตัว และติดกันเลยก็จะเป็นห้องน้ำ ส่วนของห้องน้ำผมว่าโครงการให้มากว้างเลยครับ แบ่งเป็นสัดส่วน แยกโซนแห้งและเปียก และสุขภัณฑ์ก็ใช้เป็นแบรนด์มาตรฐาน

ลองเข้ามาดูที่ห้องนอนกันครับ ส่วนของห้องนอนจะอยู่ติดกับ Living Area โดยมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้น ทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งและโล่ง แต่หากใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็สามารถใช้ม่านกั้นได้ครับ สำหรับพื้นที่ภายในห้องนั้นสามารถวางเตียง King Size ได้เลย ส่วนพื้นที่ปลายเตียงนั้นสามารถ Built-in เป็นมุม Walk-in Closet เล็กๆ ได้อีกด้วยครับ ซึ่งพื้นที่ของห้องนี้ผมว่าลงตัวทั้งอยู่คนเดียว และคนมีคู่เลยครับ คราวนี้เราลองไปดูห้องตัวอย่างสุดท้ายกันครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

1 Bedroom Plus ขนาด 33 ตร.ม.
Living ขนาดใหญ่ + ห้องอเนกประสงค์

มาถึงห้องตัวอย่างสุดท้ายอย่างห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 33 ตร.ม. กันครับ ห้องนี้ส่วนของ Living Area ค่อนข้างกว้างเลยครับ ซึ่งพื้นที่แรกที่เราเปิดประตูเข้ามาเจอก็คือพื้นที่ห้องครัวเปิด ซึ่งเป็นครัวรูปแบบ I – Shaped Kitchen มุมถัดมาจะเป็นมุม Dining Area ที่ทางโครงการจัดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่งมา ซึ่งจริงๆ แล้วพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างนี้สามารถวางเป็นโต๊ะ 4 ที่นั่งเลยก็ได้ครับ

และอีกมุมที่อยู่ถัดไปก็คือพื้นที่ของ Living Area ครับ ซึ่งพื้นที่นี้ค่อนข้างกว้าง มี Space ระหว่างโซฟากับหน้าทีวีเหลือค่อนข้างเยอะเลยครับ โดยพื้นที่ของ Living Area นั้นจะ Combine กับมุม Dining Area และครัวได้อย่างลงตัว

สำหรับพื้นที่ห้องน้ำนั้นจะอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่ของ Living Area ครับ ภายในกว้าง ซึ่งผมชอบกระจกบานใหญ่ที่สามารถเทควิวบริเวณอ่างล้างหน้าได้ ซึ่งบรรยากาศภายในห้องน้ำจะโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด และยังมีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่างมีสัดส่วน แบ่งโซนแห้งและเปียกออกจากกันด้วยครับ

มาดูที่พื้นที่ของห้องอเนกประสงค์กันบ้างครับ ผมชอบฟังก์ชันของห้องนี้นะครับ ซึ่งพื้นที่ภายในนั้นทางโครงตกแต่งมาเป็นห้องทำงานสำหรับคนรุ่นใหม่ การตกแต่งก็จะค่อนข้างดูทันสมัย หรือหากใครที่อยากจะได้ห้อง Walk-in Closet ขนาดใหญ่อีกสักห้องก็สามารถใช้ห้องนี้ได้เช่นกันครับ ซึ่งน่าจะเป็นไอเดียให้สาวๆ ได้

เราลองเข้ามาดูที่พื้นที่ห้องนอนกันบ้างครับ ผมชอบ Mood & Tone การตกแต่งห้องนี้นะครับ ดูเรียบง่ายแต่ให้ความสวยหรู และบรรยากาศที่สบายๆ ไม่อึดอัด ห้องนี้วางเตียงขนาด King Size ได้ และยังมีพื้นที่เหลือให้สามารถวางโต๊ะขนาดพอดีบริเวณหัวเตียงได้อีกด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วฟังก์ชันของห้อง 1 Bedroom Plus นั้น ผมว่าสามารถอยู่กันเป็นครอบครัวได้ หรือคนโสดที่อยากมีห้องขนาดใหญ่ก็สามารถอยู่ได้เช่นกันครับ

คราวนี้เราลองไปดูกันดีกว่าครับว่าโครงการนี้จะเหมาะกับใครบ้าง…

คอนโดนี้เหมาะกับใคร?

โครงการนี้ผมว่าเหมาะกับการอยู่เองเป็นหลักครับ เพราะด้วยทำเลที่เอื้อไปด้วยความสะดวกสบายต่างๆ ทั้งเรื่องการเดินทาง แหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บวกกับฟังก์ชันและระบบต่างๆ ที่ทางโครงการให้มา และราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 91,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำที่สุดในย่านนี้ ผมว่าคุ้มมากที่จะซื้ออยู่เอง ซึ่งเป้าหมายของทาง Grand Unity เองก็คาดไว้ด้วยว่าจะมีลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่จริงประมาณ 80% แต่ในขณะเดียวกัน อีก 20% ก็คือลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว นั่นก็เพราะว่าศักยภาพของทำเลจตุจักรนั้นเอื้อต่อเรื่องของการลงทุนเช่นกันครับ เพราะด้วย Yield ที่อยู่ประมาณ 5 – 7% ต่อปี ผมว่าสูงเลยทีเดียวครับ

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1. ทำเล : อย่างที่ทราบกันว่าจตุจักรคือทำเลที่เป็นเหมือนแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ไว้ที่นี่ หรือแม้แต่การเป็น Transportation Hub ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เอื้อให้จตุจักรเป็นทำเลที่มีศักยภาพมากในปัจจุบันนี้ อย่างที่ตั้งของตัวโครงการเองก็ใกล้ทั้ง BTS หมอชิต, สะพานควาย และอารีย์ นอกจากนี้ยังใกล้ MRT จตุจักร, รัชดาภิเษก และสิทธิสารอีกด้วยครับ

2. ราคา : ตัวโครงการ ขายแบบ Fully Furnished และราคาต่ำกว่าตลาด แทบไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องนี้ ถือว่าคุ้มมากในย่านจตุจักร คนรุ่นใหม่ หรือ First Jobber และ คนทำงานสามารถแตะต้องได้ครับ

3. ส่วนกลาง : ส่วนกลางของที่นี่ให้มาเยอะครับ ทั้งยังเป็นส่วนกลางที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะพื้นที่ Workout Area อย่าง Up & Above Gym ที่เป็นห้องออกกำลังกาย 2 ชั้น แถมยังกว้างมาก พื้นที่กว่า 220 ตร.ม. ส่วนสระว่ายน้ำของที่นี่ก็มีขนาดใหญ่เทียบเท่าสระว่ายน้ำโอลิมปิก และ Jogging Track ยาวกว่า 270 เมตร เอาใจสายสุขภาพให้ออกกำลังกายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

4. รูปแบบห้องและสเปก : รูปแบบห้องฟังก์ชันครบและลงตัวมากครับ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยแบบ Full Area หรือสามารถใช้พื้นที่ได้เต็มพื้นที่นั่นเองครับ ส่วนตัวห้องอเนกประสงค์เองก็สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความชอบของแต่ละคนได้ครับ

5. การลงทุน : อย่างที่ผมบอกไปครับว่าโครงการนี้เหมาะกับการซื้ออยู่เอง เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการค่อนข้างเอื้ออำนวยมาก แต่ในขณะเดียวกัน Real Demand ของย่านนี้ก็ยังมีอยู่ และศักยภาพของทำเลก็เอื้อต่อการลงทุนดัวย Yield ประมาณ 5 – 7% ต่อปี

‘เดนิม จตุจักร’ ไม่มีเหตุผลให้ต้องคิด กับคอนโดที่แพลนไว้ให้ครบ

เปิดตึกใหม่ จองเบาๆ…ไม่เอาก็คืน*  เริ่ม 1.xx ลบ.*

◾ เพียงแค่ลงทะเบียน รับสิทธิพิเศษ*

◾ ส่วนลดเพิ่ม 10,000 บ.*

📌 คลิก https://bit.ly/3lBtzYd

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ LINE @grandunity หรือคลิก https://lin.ee/43DSpj9sx

 

โพสต์ไว้ที่: Review เก็บเข้าไฟล์ไว้ที่:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *