สืบก่อนโอน มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ

มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ
Maestro 07 Victory Monument

วันนี้ผมจะพามาชมโครงการ มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ ที่ต้องบอกว่าตอนเปิดตัวโครงการนี้ เขาขายดีมากๆ ครับ ตอนนี้โครงการพร้อมอยู่แล้ว ดังนั้น เรามาหาคำตอบกันดีกว่าครับว่า ทำไมโครงการนี้ถึงขายดี แล้วที่สร้างเสร็จแล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง ? ครับ

ทำไม? มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ ถึงขายหมดตั้งแต่เปิดโครงการ

คอนโดจะขายดีหรือไม่? นั้น ส่วนนึงของการขายดี ส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องของทำเลครับ ทำเลดีก็ได้เปรียบไปกว่าครึ่ง แล้วหากดีไซน์สวยแตกต่างจากโครงการอื่นในละแวกอีก ผมบอกเลยว่า เปิดขายแป๊บเดียวยังไงก็ขายหมด เช่นเดียวกับ โครงการ “มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ” ที่ตอนเปิดโครงการก็ขายหมดในไม่กี่วัน ตอนแรกที่เปิดขายอย่างที่ผมบอก ราคาแรง 14x,xxx บาท/ตร.ม.* ผมยังไม่อยากเชื่อเลยครับว่าจะขายหมด แต่มันเป็นไปแล้วครับ และตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมให้อยู่แล้ว ดังนั้น วันนี้เราลองมาดูกันดีกว่าครับว่า ทำไม? โครงการ มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ จึงขายหมดตั้งแต่ตอนเปิดโครงการ

ทำเล “อนุสาวรีย์ชัยฯ” ศูนย์รวมการคมนาคมและเศรษฐกิจกรุงเทพฯ  

“อนุสาวรีย์ชัยฯ” พูดไปใครใครก็รู้จักครับ เพราะทำเลตรงนี้เรียกได้ว่าทุกคนต้องเคยผ่าน เพราะ อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นศูนย์รวมการเดินทางการคมนาคมเกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รถตู้, รถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์, รถ Taxi และ รถไฟฟ้าสายสีเขียว “สถานีอนุสาวรีย์ชัยฯ” เป็นสถานีที่พนักงานออฟฟิศทุกคนต้องมาใช้บริการทุกวันเวลาทำงาน หรือการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก เพราะใกล้ทางด่วนศรีรัช เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจ มีร้านค้าและร้านอาหาร รวมถึงตลาดอยู่ล้อมรอบ และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง โรงพยาบาล, สถาบันการศึกษา, ออฟฟิศ, ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อีกด้วยครับ ดังนั้น คอนโดไหนที่อยู่ตรงนี้ ผมบอกเลยว่าเป็นทำเลที่ดีมาก จึงไม่แปลกครับที่ถึงแม้ราคาขายของโครงการนี้จะแรง แต่ด้วยที่โครงการ มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ชัยฯ อยู่ตรงปากซ. ราชวิถี 7 ใกล้ Sky walk BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ แค่ 80 เมตร และถ้าตัวสถานีจริงๆ ก็ประมาณ 300 เมตร ผมถือว่าเดินได้ไม่ไกลและไม่เหนื่อยครับ โครงการนี้ข้อดีคือ เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทางหลัก จะเข้าออกจากถนนราชวิถี (ปากซอยราชวิถี 7) ประตูจะเปิดตลอดเวลา ส่วนอีกทางเข้านึง คือ เข้าทางถนนรางน้ำ (เข้าตรงซอยวัฒนโยธิน) ทางนี้จะเป็นทางเข้าออกรองครับ ประตูจะไม่ได้เปิดให้เข้าตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับการบริหารของนิติบุคคลด้วยว่าจะเปิด-ปิดเวลาไหน และทำเลของโครงการตรงนี้ ผมว่ามันเหมาะมากๆ สำหรับคนอยู่อาศัยเอง เพราะมันสะดวกทุกอย่างจริงๆ ถ้าต้องขับรถไปทำงานก็เดินทางสะดวกเพราะมีทางเข้าออกตั้ง 2 ทาง และแค่ 500 เมตร ก็ขึ้นทางด่วนศรีรัชตรงถนนพหลโยธิน ไปนอกเมืองหรือในเมืองได้ง่ายๆ แต่ถ้าใครชอบการเดินทางด้วยรถบริการสาธารณะ อย่างรถตู้, มอเตอร์ไซค์, รถเมล์ หรือรถ Taxi ผมก็มองว่ามันตอบโจทย์ มองไปทางไหนก็เจอ เพราะมีให้บริการทุกเส้นทางเกือบทุกจุดรอบโครงการ และหากเจ็บป่วยไม่ต้องกลัวนะครับ โครงการนี้รายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า, โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลพญาไท 1 และ 2 เย็นๆ หรือวันหยุดก็เดินออกจากโครงการไปช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน อย่างเซ็นเตอร์วัน, เซ็นจูรี่, หรือเดินไปถนนรางน้ำ แหล่งช้อปปิ้งอันดับต้นๆ ที่คิง พาวเวอร์ เพื่อไปช้อปของแบรนด์ลดราคาก็สามารถทำได้ครับ หรืออยากนั่งรถไฟฟ้าไปสยาม พารากอนก็แค่ 3 สถานี ถ้าอยากออกกำลังกายก็ไปวิ่งได้ที่สวนสันติภาพ อีกทั้งโครงการยังใกล้อาคารวรรณสรณ์ ศุนย์รวมสถาบันติวเตอร์จากทุกสถาบันชั้นนำมารวมกันที่นี่ครับ เห็นไหมครับ ที่ผมบอกมาทั้งหมด ก็คือ ทำเล เป็นจุดเด่นแรกที่ทำให้โครงการนี้ขายดี หมดภายในไม่กี่วันครับ

เอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ “มาเอสโตร”

แบรนด์ “มาเอสโตร” เท่าที่ผมเห็นโครงการเขาเปิดขายแต่ละโครงการ ผมชอบตรงที่โครงการเขามีคอนเซ็ปท์ และสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างชัดและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ “มาเอสโตร” เองครับ นั่นก็คิอ การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความโมเดิร์น (Classic Inspired with Modern Twist) อันนี้ต้องบอกว่าเขาวางการออกแบบนี้ทุกโครงการและทุกทำเล แม้ว่าจะเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น แต่การออกแบบ ส่วนตัวผมมองว่าดูเรียบหรู สบายและเน้นความเขียว ความธรรมชาติภายในโครงการ ทำให้รู้สึกสงบ โทนสีจะออกเทาเข้มและเทาอ่อน เหลือง น้ำตาลไหม้ ดูแล้วสบายตา ซึ่งต่างจากความวุ่นวายข้างนอกบริเวณรอบโครงการ เพราะเป็นแหล่งชุมชนรวมถึงศูนย์รวมที่มีคนสัญจรไปมาในแต่ละวันหลายหมื่นคนครับ ส่วนตัวผมมองว่าที่พักอาศัยถ้าเราอยากอยู่มันก็ต้องเป็นมาสเตอร์พีซสำหรับเรา ซึ่งผมเป็นคนที่ชื่นชอบงานศิลปะแนวสถาปัตยกรรม ผมก็เลยมองว่าโครงการนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้มองแล้วรู้เลยว่าเป็นโครงการแบรนด์อะไร เรียกได้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซในใจผมก็ได้ครับ

สเปกดี ยูนิตน้อย

โครงการนี้ ให้ชุดเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ Furnamic ทุกห้อง แต่เป็นแบบ Fully Fitted ก็ถือว่าสมราคาขายครับ ส่วนเรื่องของสเปกภายในของห้องโครงการ ผมมองว่าให้แบรนด์สเปกแต่ละอย่างมาดี เช่น ครัว Furnamic พร้อม Top หิน Quartz, Hood & Hob จาก Hafele และแอร์ ยี่ห้อ Trane พวกไฟในห้องเป็นแบบ LED Down light ซึ่งประหยัดไฟและมีความสวยงาม ส่วนพื้นห้องกับพื้นครัว ผมมองว่าสเปกทั่วไปไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่น แต่โดยภาพรวมโครงการนี้ก็ทำ Product ออกมาสมราคาขาย และจุดเด่นอีก 1 ข้อนอกเหนือจากที่ผมกล่าวไปทั้งหมด นั่นก็คือ โครงการนี้เป็นคอนโดที่เน้นความเป็นส่วนตัว เพราะด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย เพียง 171 ยูนิต และเทรนด์สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครอยากอยู่คอนโดที่มีจำนวนยูนิตเยอะๆ หรอกครับ เพราะมันดูแออัดและจอแจ ค่านิยมก็เปลี่ยนไปอยากได้ความ Exclusive มากขึ้น จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นว่าคอนโดจำนวนยูนิตน้อยจะขายดีและหมดก่อน

ทั้ง 3 ข้อนี้ก็คงเป็นคำตอบที่บอกว่า ทำไมโครงการนี้จึงขายดีครับ เรามาดูกันต่อดีกว่าว่านอกจากนี้มีอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจสำหรับโครงการนี้

รูปแบบห้องเป็นแบบไหน ใครชอบ?

เนื่องจากโครงการขายหมดแล้วจึงไม่มีห้องตัวอย่างให้ผมดู แต่ก็มีห้องจริงที่โครงการพาผมชม แต่ก่อนจะไปชมห้อง ผมขอเล่ารายละเอียดก่อนว่าโครงการนี้มีห้องขนาดเท่าไหร่ แบบไหนบ้าง และแต่ละห้องมีข้อดีและข้อด้อยอย่างไรนะครับ ห้องของโครงการจะมีขนาดตั้งแต่ 27 ตร.ม. – 68 ตร.ม. และส่วนใหญ่จะเป็นห้อง 27-28 ตร.ม. ซึ่งโครงการวางห้องเล็ก แบบวิวดีครับ คือ หลายตำแหน่ง จะอยู่หน้าสระว่ายน้ำ ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจเข้าไปอีก เพราะนอกจากราคาจะถูกเพราะขนาดห้องที่เล็กแล้ว ยังได้วิวส่วนกลางอย่าง สระว่ายน้ำอีกด้วย แต่ห้องใหญ่กลับวางไว้รอบนอก ซึ่งโดยรอบมีตึกด้านข้าง อันนี้ก็ถือว่าโครงการขายเก่งครับ เพราะราคาแพงกว่า วิวไม่ค่อยดีเท่าสระว่ายน้ำแต่ก็ขายหมด เอาเป็นว่ามาดูแต่ละห้องดีกว่าครับว่าฟังก์ชั่นและการจัดรูปแบบห้องจะเป็นอย่างไรบ้าง

27.01 ตร.ม. ห้องแปลนตอนลึก เน้นจัดสรรพื้นที่ในห้องนอน

ห้องรูปแบบนี้ ส่วนตัวผมมองว่าแบ่งพื้นที่แบบง่ายๆ แต่ก็ชัดเจนครับ คือ แบ่งออกเป็นแค่ 2 ส่วน คือ ส่วนพื้นที่ครัว และพื้นที่ห้องนอน โดยใช้บานเลื่อนกั้นห้องให้ดูจัดสรรพื้นที่แต่ละส่วนชัดเจนขึ้น สิ่งที่ผมชอบ คือ การที่มีมุมโต๊ะทำงานไว้ในห้องนอนใกล้ระเบียง และห้องส่วนใหญ่ของห้องนี้ จะเป็นวิวสระว่ายน้ำ ทำให้เวลาทำงานก็สามารถที่สร้างสรรค์ความคิด โดยมองผ่านวิวได้ แต่ที่ผมไม่ชอบ คือ การที่นำพื้นที่นั่งเล่นมาไว้ตรงห้องนอนและอยู่ปลายเตียง ฟังก์ชันมันดูไม่ค่อยลงตัว แต่ก็แล้วแต่คนชอบ ถ้าใครชอบแบบนี้ คือ เพื่อนที่มาห้องต้องสนิทกันแบบมากๆ ครับ เพราะฟังก์ชันห้องแบบนี้ เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวหรือกับแฟนแค่ 2 คน เพราะมันดูส่วนตัว เนื่องจากฟังก์ชันทุกอย่างจะเอาไว้ที่ห้องนอนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนครัวด้านหน้าและห้องน้ำ พื้นที่ก็อาจจะดูเล็กไปหน่อย เนี่ยก็คงเป็นข้อเสียของรูปแบบแปลนตอนลึกครับที่อาจจะวางฟังก์ชันไม่ค่อยลงตัวเท่าที่ควร

45.51 ตร.ม. 2 ห้องนอน แปลนตอนลึก เน้นห้องนั่งเล่น

รูปแบบห้องนี้จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และมีลักษณะเป็นแปลนตอนลึก ครัวจะอยู่ตรงมุมทางเข้า แล้วเน้นพื้นที่ห้องนั่งเล่นยาว ติดระเบียง เพื่อ Take วิวข้างนอกได้ และห้องนอนทั้ง 2 ห้องก็เป็นสัดส่วนดี อันนี้ผมชอบนะครับ เพราะได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่กว้างยาว และพื้นที่ห้องนอนลงตัว ส่วนที่ผมรู้สึกไม่ค่อยโอเค คือ ห้องน้ำแค่ 1 ห้องอยู่ตรงกลาง และต้องออกมาใช้ร่วมกันครับ

68.37 ตร.ม. 2 ห้องนอน แปลนหน้ากว้าง เพิ่ม Walk in Closet เน้นวิวตรงระเบียง

รูปแบบห้องนี้ ทางโครงการไม่ได้พาผมไปชมห้องจริงครับ แต่ผมชอบรูปแบบห้องนี้ที่สุดเลยขอยกมาพูดด้วยนะครับ เหตุผลที่ผมชอบแปลนรูปแบบนี้ คือ ห้องนี้เป็นห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโครงการและต่อชั้นมีเพียงแค่ 1 ยูนิตเท่านั้น เป็นห้องหัวมุม การจัดสรรฟังก์ชันภายในห้อง เน้นระเบียงที่สามารถชมวิวได้ถึง 2 มุม เนื่องจากเป็นห้องหัวมุมและระเบียงใหญ่ที่สุดในทุกรูปแบบ รวมไปถึงห้องนี้น่าจะเหมาะกับผู้หญิงนะครับ เพราะพื้นที่ห้องนอนหลักมี พื้นที่ Walk in Closet ไว้สำหรับการแต่งตัว ส่วนที่ผมไม่ชอบก็คือ ห้องครัวเป็นแบบเปิด และพื้นที่นั่งเล่นแคบลงเพราะไปเน้นที่ระเบียงครับ แต่ดูแล้วรูปแบบนี้ ฟังก์ชันลงตัวที่สุดของโครงการนี้ครับ

จุดเด่นของส่วนกลางที่นี่ มีอะไรบ้าง?

ส่วนกลางที่นี่ ตอนแรกผมก็มองว่าบนพื้นที่โครงการแค่ 1 ไร่กว่า จะมีส่วนกลางได้ครบฟังก์ชันหรอ? เพราะดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรได้เยอะ แต่ผมก็ต้องหน้าหงายไปเลยครับ เพราะโครงการนี้มีส่วนกลางเยอะพอสมควรและมีจุดเด่นของส่วนกลางที่ต่างจากโครงการอื่นๆ ด้วย มาดูกันดีกว่าว่าส่วนกลางมีที่ชั้นไหนบ้าง และมีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

ชั้น Ground จุด Welcome และหน้าตาของโครงการ

Bike Rack   
ส่วนตัวผมชอบอันนี้นะครับ เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน และไม่ไกลมาก การเดินทางด้วยจักรยานก็จะสะดวกมากกว่า ดังนั้น การมีพื้นที่จอดรถจักรยานก็จะค่อนข้างตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไม่ต้องไปจอดกีดขวางรถยนต์ด้วยครับ

Exclusive Lounge
เรียบหรูดูดีระดับนึง เนื่องจากล็อบบี้จะปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนบนพื้นและด้านหลังเคาเตอร์ต้อนรับ

Kid’s Room

เหมาะสำหรับคนที่มีครอบครัวและมีลูก เพราะโครงการนี้มีเตรียมห้องสำหรับเด็กเล่นและอุปกรณ์ให้โดยเฉพาะ

มาดูชั้น 2 และชั้น Rooftop กันบ้างดีกว่าครับ เพราะเป็นชั้นที่มีจุดเด่นของส่วนกลางค่อนข้างเยอะครับ

ชั้น 2  จุดขาย สระว่ายน้ำ และ Pool Terrace

Deluxe Swimming Pool

สระว่ายน้ำของโครงการนี้ไม่ได้ใหญ่และยาวมากครับ ก็ตามมาตรฐาน และวางไว้ระหว่างกลางของตึก แต่ส่วนที่ผมชื่นชอบ คือ Pool Terrace ที่อยู่ตรงขอบสระ มันได้บรรยากาศดีครับและดูกว้างนั่งได้หลายคน

Fitness Center

ห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์พอใช้ได้ เล่นออกกำลังกายไปก็ชมวิวสระว่ายน้ำไปครับ

Creative Space

พื้นที่สำหรับการนั่งทำงาน คิดงาน และมีมุมห้อง Library ที่ดูกว้าง น่านั่งครับ ของจริงสวยกว่าในภาพ Perspective ครับ

ชั้น Rooftop ลานเลี้ยงสัตว์ และเบิร์ดเคจ คาบาน่า

Pet Zone

ข้อดีของที่นี่ คือ อนุญาตให้ลูกค้าเลี้ยงสัตว์ได้ ทางโครงการจึงมีส่วนกลางที่เรียกว่า “Pet Zone” สำหรับเป็นลานเลี้ยงสัตว์ให้กับลูกค้า ซึ่งผมมองว่ามันเป็นส่วนกลางที่ดีสำหรับคนที่รักสัตว์นะครับ จะได้มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์เป็นสัดส่วน และส่วนกลางนี้แตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากโครงการอื่นไม่ค่อยมี เพราะดูแลบริหารจัดการยาก

Birdcage Cabana

ผมขอเรียกส่วนกลางอันนี้ว่า “ชิงช้ากรงนก” ครับ เพราะเป็นที่นั่งพักผ่อนมีลักษณะแบบกรงนก อันนี้ก็เป็นอีกส่วนกลางนึงที่ผมชอบ เพราะแปลกและมีสไตล์ดีครับ

Peaceful Yoga Court  & Jogging Track

พื้นที่สำหรับออกกำลังกายประเภท “โยคะ” และมีสวนอยู่บริเวณที่ออกกำลังกายด้วย ทำให้บรรยากาศในการออกกำลังกายร่มรื่น และมีทางสำหรับใช้วิ่งออกกำลังกาย

BBQ Courtyard

พื้นที่สำหรับปิ้งๆ ย่างๆ และจัดปาร์ตี้เวลามีงานเลี้ยงฉลองกับเพื่อนหรือเทศกาลสำคัญ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของส่วนกลางที่ผมเลือกมาว่าเป็นส่วนกลางที่เด่นนะครับ ยังมีส่วนกลางอื่นๆ อีกของโครงการที่ผมมองว่าที่นี่ก็เป็นที่ที่นึงที่ให้ส่วนกลางเยอะครับ

ภาพรวมของที่นี่เป็นไงบ้าง?

จากที่ผมไปชมโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว โดยภาพรวมส่วนตัวผมมองว่า ดีใช้ได้เลยครับ รูปขายอย่างไงตอนเปิดขาย ตอนสร้างเสร็จก็เป็นตามนั้น และมีบางส่วนที่ผมมองว่าดีกว่าในรูปภาพ Perspective ที่ขายอีกครับ อย่างเช่น โซน Creative Space, Kid’s Room  และ Birdcage Cabana ส่วนของห้องพักอาศัย ผมรู้สึกเฉยๆ ครับ ก็เป็นตามมาตรฐานที่โครงการได้ Commit กับลูกค้าไว้ ส่วนถนนทางเข้าโครงการด้านหน้าตอนแรกผมก็มองว่าแคบนะครับ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้แคบเพราะหน้ากว้างถนนถึง 6 เมตร ก็เป็นไปตามกม.ครับ

ลงทุนโครงการนี้ ได้กำไร หรือ ขาดทุน?

จากที่ผมได้พูดไปแล้วข้างต้นว่า ทำเล “อนุสาวรีย์ชัยฯ” เป็นทำเลศูนย์รวมเศรษฐกิจ เป็นแหล่งงานของคนกรุงเทพฯ เพราะมีสำนักงานออฟฟิศอยู่บริเวณนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาคาร CP Tower 3, พญาไท พลาซ่า, อาคารสิริภิญโญ, อาคารวรรณสรณ์ รวมไปถึงกระทรวงราชการต่างๆ ทำให้ทำเลตรงนี้มี Capital Gain และ Rental Yiled ที่สูง จะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ หรือ คอนโด ปล่อยให้เช่า ค่าเช่าจะได้กำไรในการปล่อยเช่าอยู่ที่  5-6% และราคาขายที่เพิ่มขึ้นทุกปี จะได้กำไรประมาณ 13-15% (ข้อมูลจาก hipflat และ rentalhub) ซึ่งค่า Capital Gain และ Rental Yiled ที่สูง ก็หมายถึง กำไรในการลงทุนก็มากเช่นกันครับ ดังนั้น โครงการนี้ลงทุนก็ได้กำไรแน่นอน และยิ่งตอนนี้โครงการสร้างเสร็จแล้ว ก็ยิ่งเป็นโอกาสสำหรับคนที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือ จะขายต่อก็ได้กำไรมากขึ้นครับ

โครงการนี้เหมาะกับใคร?  

โครงการนี้เหมาะกับพนักงานออฟฟิศ หรือ คนที่ซื้ออยู่เองเป็นหลักครับ เพราะเมื่อก่อนผมทำงานแถวนั้น ผมมองหาอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดให้เช่าบริเวณนั้นเหมือนกัน ราคาค่าเช่าไม่ได้ถูกแต่ก็ยอมจ่าย เพราะ “ทำเล” มันตอบโจทย์ผมในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องของการเดินทางไปกลับที่ทำงานและที่บ้าน ใกล้ตลาด ใกล้ห้าง ใกล้รพ.และสถาบันกวดวิชาอีก รวมถึงการใช้บริการรถสาธารณะต่างๆ ครบทุกประเภท ทำให้ผมมองเลยว่า คอนโดนี้ ตอบโจทย์พนักงานทำงานออฟฟิศในเมืองมาก และคนที่ต้องการซื้ออยู่เองจริงๆ ครับ ในส่วนของกลุ่มนักลงทุน Capital Gain และ Rental Yiled ที่สูง ก็ดูน่าสนใจแต่เงินลงทุนการซื้อก็อาจจะแพงหน่อย แต่ซื้อยังไงก็ ทำกำไรได้อยู่แล้วครับ ดังนั้น ผมเลยมองว่าตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนจะเป็นสัดส่วนรองจากกลุ่มที่จะซื้ออยู่เองครับ

…ดังนั้น ผมขอสรุปมุมมองนักสืบอสังหา อีกครั้งดังนี้ครับ….

ความเห็นในมุมนักสืบอสังหา

1.ทำเล :   ส่วนตัวผมมองว่า ทำเลนี้ดีมากครับ เพราะเป็นทำเลที่รวมทุกการเดินทางทุกประเภททั้งรถบริการสาธารณะ หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล, สถาบันกวดวิชา, ห้างสรรพสินค้า, ออฟฟิศ สำนักงานทั้งเอกชนและรัฐบาล  ทำให้ตรงนี้เป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจที่ใหญ่แห่งนึง เพราะมีตลาดที่ค้าขายกันมาช้านานตามฟุตบาท ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มีแล้ว แต่ก็มีพวกร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่ยังเปิดให้บริการและมีลูกค้าแวะเวียนไปใช้จ่ายกันบริเวณนี้ค่อนข้างเยอะ รวมถึงถนนรางน้ำ ที่คิง พาวเวอร์ตั้งอยู่ ทำให้นักช้อปของแบรนด์เนม ราคาถูก มาจับจ่ายใช้สอยกันก็เยอะ รวมถึงการที่มีโรงแรมใกล้ๆ อย่าง Pullman หรือ สุโขทัย เป็นต้นครับ

2.ราคา : จากตอนเปิดตัวเมื่อ 2-3 ปีก่อน จะอยู่ที่ประมาณ 14x,xxx บาท/เมตร* ซึ่งตอนนั้นราคาแรงมาก เพราะเป็นตึกเตี้ย แต่ปัจจุบันราคาขายก็เพิ่มขึ้นไปอีกประมาณ 15x,xxx บาท/ตร.ม.* ราคาไม่ได้ดูแรงเหมือนตอนเปิดตัว เพราะมีโครงการอื่นๆ มาเปิดขายในราคาที่แรงกว่า ประมาณ 16x,xxx บาท/ตร.ม.* ดังนั้น หากใครสนใจตอนนี้โครงการมีห้อง Resales ขายอยู่ลองแวะไปดูได้ครับ

3.ส่วนกลางและสเปกภายในห้อง :  ส่วนกลางก็อย่างที่ผมบอก คือ ของจริงทำออกมาแล้วสวยกว่าภาพขาย อย่าง Birdcage Cabana ชิงช้ากรงนกของผม หรือ สระว่ายน้ำ Pool Terrace ที่ทำออกมาของจริงทำได้ดีครับ และโครงการนี้ก็ให้ส่วนกลางเยอะจริงๆ ในส่วนของสเปกให้สมราคาขาย เพราะแบรนด์ของสเปกแต่ละรายละเอียดก็เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น ครัว Furnamic พร้อม Top หิน Quartz, Hood & Hob จาก Hafele และแอร์ ยี่ห้อ Trane ครับ

4.รูปแบบห้อง : ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบแปลนหน้าลึกของโครงการนี้เท่าไหร่ครับ เพราะฟังก์ชันดูไม่ค่อยลงตัว แต่ถ้าจะให้ผมลองดูว่าชอบแปลนไหนที่สุดของโครงการนี้ ผมก็คงชอบแปลนห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 68.37 ตร.ม. เพราะฟังก์ชันลงตัวสุด และมีห้องน้ำ 2 ห้อง, ระเบียงใหญ่ Take วิวได้ 2 มุม รวมไปถึงมีพื้นที่ Walk in Closet ใช้สำหรับการแต่งตัวครับ

5.การลงทุน : เรื่องของการลงทุน สำหรับโครงการนี้ผมมองว่าตอบโจทย์ลูกค้าทั้งที่อยู่อาศัยเองและลงทุนครับ แต่ให้สัดส่วนไปทางลูกค้าที่อยู่อาศัยเองมากกว่านักลงทุน เพราะโครงการนี้ สำหรับลูกค้าที่ซื้ออยู่เอง จะตอบโจทย์เรื่องของการเดินทางและความคุ้มค่า เนื่องจากทำเลดีมาก เป็นศูนย์รวมการเดินทางทุกประเภท และเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจที่ใหญ่แห่งนึงของกรุงเทพฯ ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ ใกล้ทางด่วน และส่วนกลางให้ครบและเยอะ ส่วนในแง่ของการลงทุน Yield ค่าเช่าสำหรับโซนนี้จะอยู่ประมาณ 5-6% และ Capital Gain ประมาณ 13-15% (ดูจากข้อมูลของ hipflat และ Rentalhub) ดังนั้น ลงทุนไปก็ได้กำไร ไม่ขาดทุนครับ

หากใครสนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ >> เบอร์ ‪02-116-1111

หรือลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ >> ‬http://bit.ly/2D6ucVf

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *